เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

             เส้นทางของนักร้องนำในวงร็อคบ้านเรา มีอายุงานที่แต่ละคนต้องแลกมาด้วยชื่อเส่ียง ความสำเร็จ เงินทอง และมีเร่ื่่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นนักร้องนำบางคนต้องกลายเป็นศิลบินเดี่ยว และไม่ดังเหมือนก่อน หรือบางคนพอแยกวงแล้ว ดังกว่าเดิมก็มีให้เห็นเยอะในวงการ

          กว่า 16 ปีบนถนนสายดนตรี ผ่านอุปสรรคมาแล้วมากมาย มีวงมาแล้ว 2 วง แต่ด้วยความชอบและเป้าหมายที่ต่างกัน ทำให้นั้กร้องผิวเข้ม เสียงมีเอกลักษณ์อย่าง หนุ่ม – กฤตพจน์ แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม KALA  ในวันนี้ยังขอยืนหยัดที่จะทำเพลงต่อไป กับนักดนตรีรุ่นน้องที่ถึงแม้จะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่พวกเขากลับมาช่วยจุดไฟของ หนุ่ม ให้ลุกโชนอีกครั้ง

                “การแยกวงทั้งสองครั้ง คือ จากกันด้วยดีนะครับ คือหลังจากเวลามันผ่านไป ความต้องการของแต่ละคนก็เริ่มเปลี่ยนไป ความทุ่มเทก็เริ่มไม่เท่ากัน แต่ผมยังรักและผูกพันกับดนตรี ผมยังมีความสุขกับการร้องเพลง ผมไม่ได้มองเรื่องตัวเงิน ผมจึงเริ่มปฏิวัติตัวเอง ผมหยุดทุกอย่าง หยุดเหล้า หยุดบุหรี่ เข้าฟิตเนส เปลี่ยนตัวเอง เพราะผมอยากยืนอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุดและยืนอย่างสมศักดิ์ศรีครับ จนมาเจอน้อง ๆ กลุ่มนี้ ความสดของพวกเขาทำให้ผมฮึดอีกครั้งครับ คือการเปลี่ยนครั้งนี้ มันอาจจะทำให้ผมเสียแฟนเก่าทั้งหมดได้เลย หรือผมก็อาจจะได้ใจแฟนใหม่ทั้งหมดก็ได้ มันเป็นความเสี่ยง แต่เป็นความเสี่ยงที่น่าตื่นเต้นครับ”

                นอกจากจะให้โอกาสตัวเองแล้ว คนที่ให้โอกาสกับ หนุ่ม ที่สำคัญคือ พี่นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้บริหารค่ายจีนี่ เรคคอร์ดส  ต้นสังกัด กับวลีเด็ด ถ้าทำไม่ได้…ก็ไม่ต้องออก ซึ่งทำให้ หนุ่ม จับปากกาเขียนเพลงและแต่งทำนองด้วยตัวเองอีกครั้งจนเสร็จเรียบร้อยใสนระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

                “มันเป็นการไว้เนื้อเชื่อใจและเป็นการให้โอกาสแบบที่สุด จากที่ไม่เชื่อมั่นตัวเองเลยเพราะร้างราการแต่งเพลงไปหลายปี  ผมต้องขอบคุณ พี่นิค มาก ๆ ครับ พี่นิคย้ำว่าอยากให้เพลงมาจากตัวผมทั้งหมด ซึ่งผมก็ทำได้จริง ๆ อย่างเพลง เขาจะรู้บ้างไหม มาจากการที่ผมเป็นศิราณีตอบคำถามเรื่องความรักให้น้อง ๆ ในเฟสบุ๊คเลยครับ ผมยังงงว่าทำไมน้อง ๆ เค้าถึงมาปรึกษาผม เพราะผมก็ไม่ใช่กูรูด้านความรักซะด้วย แต่หลาย ๆ ข้อความ หลาย ๆ ปัญหาของน้อง ๆ มันทำให้ผมคิดว่าที่พวกเค้ามาปรึกษา มาพร่ำพรรณาถึงคนอื่นเนี่ย คนนั้นเขาจะรู้ไหม นี่เลยเป็นที่มาของซิงเกิ้ล “เขาจะรู้บ้างไหม” ครับ ในเรื่องของทำนอง หลังจากที่ผมเสพเพลงมาตลอด ทั้งของบ้านเราหรือของเมืองนอก ความคิดของผมมันก็เปลี่ยนไปซึ่งผมก็อยากลองอะไรใหม่ ๆ ครับ คาดหวังเล็ก ๆ ให้เพลงสำเร็จครับ คาดหวังว่าอยากให้มีคนชอบในสิ่งที่ผมกำลังทำด้วยนะครับ”

                   อนาคตจะเป็นยังไง จะโรยด้วยกลีบกุหลาบหรือขวากหนาม เค้าเท่านั้นจะคงให้คำตอบได้ดีที่สุด

Cr.กองบรรณาธิการทีวีพูล