คชา-นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์
“ผมเชื่อในเรื่องการทำความดี พระองค์ท่านเคยสอนเรื่องการทำดี ท่านตรัสว่า “การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลังในการเสริมสร้างและสะสมความดี” ซึ่งผมเชื่อในพระราชดำรัสนี้มาตลอด แม้ว่าการทำดีจะเห็นผลช้า แต่ผมได้ความสบายใจ ซึ่งการที่พ่อหลวงทรงสอนเรื่องการทำดี มันก็เหมือนสอนให้เรามีความเพียรด้วย ถ้าเราเพียรทำความดี สักวันต้องเห็นผล สิ่งนี้มันต่อยอดมาถึงความสามัคคีได้ด้วย
พ่อหลวงของเราท่านทรงมีพระอัจฉริยภาพหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านดนตรีที่ผมยึดเอามาเป็นแบบอย่าง ตอน ม.1 ผมมีโอกาสได้เรียนร้องเพลง เพลงแรกที่เรียนผมได้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพลง “ชะตาชีวิต” หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เรียนเพลงพระราชนิพนธ์อีกหลายๆเพลง รู้สึกประทับใจมาก ท่านทรงมีพระอัจฉริยะภาพทางด้านดนตรีมากมาย เพลงทุกเพลงมี่ท่านพระราชนิพนธ์ล้วนไพเราะและมีความหมายดี ทุกครั้งที่ผมได้ฟังและได้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ผมจะรู้สึกยินดีมาก มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนะ เวลาร้องเราจะอินมากเลย ประทับใจด้วย
เพลง “ของขวัญจากก้อนดิน” อีกหนึ่งบทเพลงเทิดพระเกียรติที่ผมชอบมากครับ ทุกอย่างมันบ่งบอกตามเนื้อเพลงเลย “เราทุกคนก็เหมือนก้อนดินแค่ก้อนหนึ่ง เปราะบาง ไร้ค่า ไร้ความหมาย” เราทุกคนเป็นอย่างนั้นครับ แต่คิดดูนะเพียงเพราะเราอยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของในหลวง เป็นเหมือนพลังใจที่คอยยึดเหนี่ยวพวกเราให้เป็นหนึ่งเดียว รวมทุกเม็ดดินให้เป็นแผ่นดิน และประโยคที่ชอบชอบที่สุดคือ “หากจะหาของขวัญให้พ่อสักกล่อง เราทั้งผอง จะพร้อมกันได้ไหม บวกกันเป็นดินเดียว ในพ่อได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไปอย่างที่เป็นมา” ผมอยากให้สังคมไทยเราเป็นเหมือนในเพลง อยากให้คนไทยรักกัน มีความสามัคคีกัน เพื่อความสุขของพ่อหลวงเราครับ
ผมภูมิใจนะที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ภูมิใจที่มีพ่อที่ดี พ่อที่ทำสิ่งดีๆ สอนสิ่งดีๆให้ลูกๆได้เดินตาม คำสอนของพ่อทุกอย่างมันดีนะถ้าทุกๆคนนำมาใช้ ผมอาจเป็นแค่เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่ง แต่ผมก็หวังมาตลอดว่าอยากให้คนไทยรักกัน ไม่ทะเลาะกัน หรือถ้าทะเลาะกันอยากให้การทะเลาะกันนั้นเป็นการนำพาประเทศไปข้างหน้า ให้อดีตที่ผิดพลาดเป็นสิ่งที่สอนเตือนใจให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นครับ”
