หากจะเอ่ยถึงศิลปินหญิงทางฝั่งตะวันตกที่ประสบความสำเร็จอย่างเปรี้ยงปร้าง  หลายๆคนก็คงจะมีที่ชื่นชอบอยู่ในใจกันอย่างละคนสองคน บางคนที่มาสายแปลกก็อาจจะปลื้ม “Lady  Gaga” มาสายฮิปฮอปเสียงทรงพลังหน่อยก็อาจจะเลิฟ “Beyonce” หรือถ้ามาสายปาร์ตี้หลุดโลกก็คงจะหนีไม่พ้นน้องห่านศรี “Rihanna”

                แต่เชื่อเถอะว่าไม่ว่าแต่ละนางจะมีไอดอลในดวงใจเป็นใครก็ตามแต่  สุดท้ายแล้วก็ต้องยกให้สาวใหญ่คนนี้เป็นยานแม่ของวงการเพลง นั่นก็คือ “Madonna” ที่ตอนนี้ได้เลื่อนขั้นจากการเป็น “Queen of Pop” กลายเป็น “Mother of All” หรือแปลเป็นไทยแบบเจ็บแสบว่า “ฉันนี่แหละแม่ทุกสถาบัน” ซึ่งก็เป็นความจริงอย่างที่ว่า เพราะไม่ว่าจะบทบาทของการเป็นนักร้อง  หรือบทบาทการเป็นนักแสดง ชีก็สามารถทำได้เนี้ยบสุดๆจนต้องยกนิ้วให้

                ในฐานะเดือนแห่งวันแม่  เดี๊ยนก็เลยอยากจะหยิบยกความเป็นขุ่นแม่ของนางเอามาประกาศศักดากันซะหน่อย  ให้ชะนีน้อย เก่งกวางรุ่นหลังได้รู้กันว่า จริงๆแล้วตัวแม่ของจริงหน่ะมันเป็นยังไง

                สำหรับ “Madonna” นั้นหลายคนอาจจะมองว่าเส้นทางการอยู่ในวงการนี้ของเธอนั้นอยู่บนกลีบกุหลาบ  แต่ความจริงมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เพราะการก้าวเข้ามาในวงการของเธอนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก ผู้หญิงตัวคนเดียวที่หนีจามิชิแกน มาตามฝันที่นิวยอร์กด้วยเงินเพียง 35 ดอลล่า แต่ด้วยความมุ่งมั่นว่าอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต ทำให้เธอสามารถสู้ต่อได้

                จากพนักงานดังกิ้นส์ โดนัท ไต่เข้ามาสู่นักแสดงในคณะละคร จนแยกตัวออกมาฟอร์มวงกับอดีตคนรักและเพื่อนๆ นี่คือก้าวแรกที่เริ่มจะเข้าเค้าสู่การเข้ามาอยู่ในวงการเพลง เธออยู่ในวงจนฝึกวิทยายุทธแก่กล้า จึงตัดสินใจส่งเทปเดโมไปให้ “Mark  Karmins” และแน่นอนเธอได้เซ็นสัญญากับ “Sire  Records” และได้ออกอัลบั้มแรกโดยใช้ชื่อตัวเอง โดยมีซิงเกิ้ล “Holiday” ติดอันดับ “Billboard Hot 100” ถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวที่แจ่มสุดๆ

                จนอัลบั้มที่สองของ “Madonna” อย่าง “Like a virgin” ที่ชีลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมเป็นสาวเซ็กซี่ตามแบบฉบับเซ็กส์บอมบ์ในตำนานอย่าง “Marilyn Monroe” ซึ่งด้วยลุคนี้ก็เปลี่ยนภาพของเธอกลายเป็นสาวสวย เผ็ด เอ็กซ์เว่อจนกลายเป็นตำนานถึงทุกวันนิ้ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่เริ่ดจริงอะไรจริง เพราะในสมัยนั้นยังไม่มีใครเปรี้ยว และกล้าได้เท่ากับเธอจริงๆ

                การเปลี่ยนลุคก็ว่าฉาวเกิดรับได้ในสมัยนั้นแล้ว  แต่อัลบั้มที่เป็นตำนานที่สุดของเธอคงต้องยกให้อัลบั้มที่ 4 ในชีวิตของเธออย่าง “Like A Prayer” กับเอ็มวีสุดฉาวในเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม ที่ทำเอ็มวีได้ออกมาแซ่บแบบตบหน้าคนอเมริกันทั้งประเทศ ทั้งฉากเซ็กที่เผ็ดร้อน หรือการใช้นักแสดงผิวสีมาเล่นเป็นพระเยซู รวมถึงการเผาไม้กางเขนโชว์ในเอ็มวี เรียกได้ว่าแรงแบบสุดๆถึงขนาดทางวาติกันต้องส่งจดหมายมาติ และทาง “Pepsi” ต้องถอนตัวเธอจากพรีเซนเตอร์เลยทีเดียวแต่ความแซ่บไม่ได้จบแค่ในเอ็มวี  แต่ชียังกระจายความแซ่บ และแหกกฏเกณฑ์บนเวทีคอนเสริตอีกด้วย  และที่เป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นการขึ้นแสดงเพลง “Like a Virgin” บนเวที “Blond Ambition tour” ที่ลือลั่นด้วยการใส่ชุดบราสุดวาบหวิว และการปลดเปลื้องอารมณ์ทางเพศกลางเวทีคอนเสริตกันเลยทีเดียว

                แต่ไม่ว่าจะแรงขนาดไหน  ก็ต้องยอมรับว่าเธอเป็นผู้แหกกฏความจำเจของวงการเพลง และเป็นต้นแบบให้กับศิลปินในยุคหลังไม่ว่าจะเป็น “Beyonce , Lady Gaga , Miley  Cyrus” หรือ “Rihanna” ก็ต่างมีเธอคนนี้เป็นขุ่นแม่ทั้งนั้น

 

               Cr.  Ploy  TVPool

 

 

 

by TVPOOL ONLINE