เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

‘ภาษี’ กับ ‘ดารา’
ปัญหาที่เคลียร์ไม่จบ

     ถือว่า “อ่วมอรทัย” เลยทีเดียว กับกรณีศึกษาเรื่อง “ภาษี” กับ “ดารา” ในความเป็นจริงแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่า บรรดาดารานักแสดงนั้นมีรายได้จากการโชว์ตัว, เล่นละคร เล่นหนัง รวมไปถึงโฆษณา การออกงานโชว์ตัวอีเว้นท์ รวมรายได้แต่ละครั้งก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ แต่เมื่อนำรายได้มารวมทั้งหมดตลอดทั้งปี ดาราบางคนมีรายได้อาจจะมากกว่าสิบล้านบาท
     ตามกฎหมายของกรมสรรพากร ผู้ที่มีรายได้ทุกคนย่อมต้องจ่ายเงินภาษีตามกฎหมาย ซึ่งจะจ่ายเท่าไรกันบ้างนั้น ต้องดูว่าคนๆ นั้นประกอบอาชีพอะไร มีรายได้เท่าไรต่อปี
    สำหรับอาชีพนักแสดงสาธารณะ ซึ่งรวมไปถึงทุกสาขาของการแสดงรวมไปถึงอาชีพในวงการบันเทิง กรมสรรพากรระบุไว้อย่างชัดเจนว่าต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 5% ซึ่งนอกจากหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว ยังต้องนำรายได้จากการทำงานตลอดทั้งปีมาคิดคำนวณการจ่ายภาษีในแต่ละปีอีกครั้งด้วย
    ดาราหลายคนมีรายได้ต่อปีหลายล้านบาท แน่นอนว่าจะต้องเสียภาษีเต็มๆ นั่นคืออัตราที่ร้อยละ 37
    การเลี่ยงภาษีจึงเกิดขึ้นเพราะดาราบางคนอาจจะนึกเสียดายที่นำเงินจำนวนล้านๆ บาทไปเสียภาษี แม้ดาราหลายคนจะออกมาพูดว่า “เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย” ก็ตามที
    การเลี่ยงภาษีที่ฮิตๆ กันก่อนหน้านี้ นั่นคือการจัดตั้งคณะบุคคล เพื่อให้คณะบุคคลเฉลี่ยจ่ายภาษีให้
    แต่ในปัจจุบันการเลี่ยงภาษีที่ถูกกฎหมาย นั่นคือการจัดตั้งบริษัทจำกัดเพราะการตั้งบริษัท ย่อมมีค่าใช้จ่ายมากมายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออุปกรณ์สำนักงาน ซื้อรถยนต์ หรือซื้อสิ่งต่างๆ เพื่อเป็นการใช้จ่ายในออฟฟิศสามารถนำมาหักภาษีได้เช่นกัน คงจำกันได้ใช่มั้ยครับเมื่ออดีต
    กรณีของ “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” นางเอกชั้นนำที่ออกมาโต้บริษัทออร์กาไนเซอร์เพียงเพื่อที่จะชี้แจงเพื่อความเป็นธรรมของตัวเอง
    ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต
    “พลอย-เฌอมาลย์” ได้นำหลักฐานที่เป็นสำเนาเช็คค่าตัวจำนวน 145,500 บาท มายืนยันต่อหน้านักข่าว พร้อมบอกว่าค่าตัวจริงๆ ของตัวเองนั้นอยู่ที่ 150,000 บาท ถึงจ่ายไม่ครบก็ไม่อยากเอาเรื่อง เพราะเรื่องหักภาษี ณ ที่จ่ายขอเป็นหน้าที่ของเธอดีกว่า
    บริษัทออร์กาไนเซอร์ก็ออกมาแถลงข่าวโต้ในทันทีว่า “พลอย” ได้นำบัตรประชาชนของคนอื่นมารับเช็คเงิน ซึ่งจะโดนหักภาษีแค่ 3% เท่านั้น ทั้งๆ ที่อาชีพนักแสดงต้องโดนหัก 5% 
    กลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย เข้าข่าย “แค่เด็ดดอกไม้ก็สะเทือนถึงดวงดาว” กันเลยทีเดียว
    กรมสรรพากรออกมาไล่บี้ตรวจสอบภาษีย้อนหลังดารานักแสดงที่เคยใช้บัตรประชาชนคนอื่นมารับเงิน หรือเสียภาษีไม่ถูกต้อง
    กลายเป็นคดีทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ระดับประเทศ เพราะกรมสรรพากรชัดเจนที่จะดำเนินการตรวจสอบ
    ท่านอธิบดีกรมสรรพากรได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า อาจจะเป็นไปได้ที่นักแสดงบางคนอาจมีการเสียภาษีคลาดเคลื่อนไปจากความจริง พร้อมกับได้แจงถึงความผิดหากมีการยื่นแบบภาษีไม่ถูกต้อง
    “สำหรับกรณีที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีโดยการใช้บุคคลอื่นเป็นผู้รับเงินแทนและทำให้การหักภาษี ณ ที่จ่าย ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงนั้น ผู้จ่ายและผู้รับเงินได้มีความรับผิดร่วม ยกตัวอย่างหากดาราดังกล่าวได้รับเงินในเดือนสิงหาคม บริษัทผู้จ่ายเงินได้ต้องนำส่งภาษี หัก ณ ที่จ่าย ในวันที่ 7 กันยายน ซึ่งกรมสรรพากรจะได้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายในทันที”
    ในกรณีศึกษาของ “พลอย-เฌอมาลย์” นั้นอาจทำให้ดาราหลายคนสะดุ้งเรื่อง “ภาษี” ที่อาจจะโดนตรวจสอบย้อนหลัง
    ผมมองเรื่องนี้ว่าเราประชาชนคนไทยควรเสียภาษีให้ถูกต้องดีกว่า
    ยกตัวอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” แม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวว่าโดนตรวจสอบภาษีย้อนหลังเช่นกัน แต่ “ณเดชน์” เองก็ได้ออกมาบอกว่า 
    “ผมเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายครับ ไม่ได้การเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด”
    อีกไม่กี่เดือนจะถึงวาระสิ้นปีแล้ว นักแสดงและประชาชนคนไทยทุกคนต้องมีการยื่นแบบเสียภาษีอย่างถูกต้องนะครับ
    ปัญหาดารากับภาษี เป็นเรื่องที่ต้องพูดถึงกับทุกยุคทุกสมัย
    แม้กระทั่งปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อยที่ดาราเลี่ยงภาษี เชื่อหรือไม่ว่าดาราดังๆ บางคนที่รับงานเช่น ออกอีเว้นท์ตกลงค่าตัวกัน 3 แสนเนต ต้องจ่าย 3 แสนเต็มๆ ส่วนต่างเรื่อง VAT เจ้าของออกให้ รับเงินแล้วก็ไม่นิยมไปฝากแบงค์
    ดาราดังหลายคนซื้อเซฟใหญ่ๆ ไว้ในบ้านสำหรับเก็บเงินสดไม่ฝากแบงค์ ไม่สนใจดอกเบี้ยนิดๆ หน่อยๆ จะมีบัญชีเล็กๆ สำหรับใช้กับเครดิตในคราวจำเป็นใครมีเงินฝากก็จะเสียภาษีด้วย ถูกตรวจสอบด้วย หลายคนจึงเลือกเก็บเงินสดไว้ในเซฟที่บ้านดีกว่า นักการเมืองส่วนใหญ่เงินที่คอรัปชั่นมาก็ใช้วิธีนี้กัน
    ดารากับภาษีหรือบุคคลธรรมดาทั่วๆ ไป ตอนนี้กำลังปวดหัวกับรัฐบาลที่ถังแตก รีดเงินภาษีจากประชาชนทุกระดับ เดือดร้อนกันทั้งนั้น วางแผนรับมือเพื่อจัดระเบียบภาษีให้ดีๆ ไม่เช่นนั้นเงินฝากกับธนาคารก็จะลดลงเพราะถูกหักภาษี-ไม่ได้ปลอดภัยหรือกินดอกเบี้ยอย่างที่คุณคิดนะครับ

Tony Aigner

by TVPOOL ONLINE

TV Pool OnlineTV Pool Online