ใกล้จะถึงปีใหม่อย่างนี้ สาวๆที่มีคนรู้ใจก็คงวางแผนเตรียมไปเที่ยวกันให้ชุ่มปอด แต่คนไม่มีแฟนจะทนว้าเหว่ไปเรื่อยๆก็ใช่ที่ อย่ากระนั้นเลย รีบมาหาทางสละโสดรับสิ้นปีกันดีกว่า พอถึงปีหน้าเราจะได้มีแฟนไว้มุ้งมิ้งด้วยเหมือนคนอื่นเขาไง
เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนไปเจอคนที่ใช่
1. ก่อนจะออกไปหาคนใหม่ๆ ถามตัวเองให้แน่ก่อนว่าคุณพร้อมสำหรับการเริ่มต้นแล้วหรือยัง ถ้าอารมณ์บางส่วนยังค้างๆ คาๆ อยู่กับแฟนเก่า หรือยังเข็ดกลัวความรัก เราอาจจะต้องหลบเลียแผลใจที่บ้านต่อไปก่อน เพราะอารมณ์ต่างๆที่แสดงออกมาทางสีหน้าแววตาคุณจะทำให้คนอื่นอึดอัด ถึงออกเดทไปคุณก็ไม่ได้แฟนติดมือกลับมาหรอก
2. ถ้าคิดว่าตัวเองพร้อมที่จะลงสนามความรักแล้ว ต่อไปให้สำรวจว่าอะไรคือข้อด้อยที่ทำให้หนุ่มๆ ไม่คลิกคุณ จากนั้นก็แก้ไขให้ดีขึ้น อย่างเช่น ชอบยิงมุขตลกลามก โวยวายเสียงดัง ไม่ค่อยสังเกตความรู้สึกของคนที่คุยด้วย แต่อย่ากดดันตัวเองจนเกินจริง เช่น น้ำหนักเกินแค่พออวบๆ กลับมโนไปว่าฉันอ้วน ใครจะมาชอบ เอ๊า! แทนที่จะหาจุดบอดเพื่อปรับปรุงตัว เลยกลายเป็นสร้างปมด้อยให้ตัวเองรู้สึกแย่ซะงั้น
3. พัฒนาความสวยขึ้นมาอีกสเต็ป ไม่ต้องถึงขนาดวิ่งเข้าร้านศัลยกรรมให้หมอเปลี่ยนหน้าใหม่หรอก แต่ต้องรู้จักปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดูดีขึ้น เช่น ถ้าคิ้วหนาเป็นปื้นก็ต้องหัดกันคิ้วออกบ้าง ถ้าตาเล็กก็หัดแต่งหน้าที่ช่วยให้ดวงตาดูกลมโต ฝึกแต่งหน้าหลายๆ แบบที่จะส่งให้เครื่องหน้าดูเด่นขึ้น
4. เมื่อหน้าพร้อมแล้วเสื้อผ้าก็ต้องไปด้วยกัน ศึกษารูปร่างของตัวเองว่าคุณเหมาะกับลุคแบบไหน ต้องแต่งตัวอย่างไรถึงจะพรางข้อเสียของเรา และอย่าลืมออกกำลังกายลดไขมันส่วนเกินประกอบกันไปด้วย จะได้เพิ่มโอกาสให้ตัวเองใส่เสื้อผ้าได้หลายแบบขึ้น
5. นับตั้งแต่นาทีนี้ต้องอ่านหนังสือให้มากขึ้น อัพเดทข่าวสารให้ทันโลก ฟังเพลง ดูหนัง เปิดโลกทัศน์ออกไปให้กว้างที่สุด เพราะคุณจะต้องใช้ความรู้ใหม่ๆพวกนี้ ช่วยดึงดูดความสนใจของเขา จะไปนั่งเอ๋อเดธแอร์ไม่มีอะไรจะคุยกันทั้งชั่วโมงนี่ไม่เอานะจ๊ะ
6. ไหนๆ จะเริ่มต้นใหม่แล้ว อย่าลืมลบภาพแย่ๆ ที่ทำให้คุณดูเสื่อมในเพจ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ออกให้หมด แม้แต่คอมเมนต์ที่จะทำให้คนมองคุณผิดๆ ถ้าลบได้ก็ควรกวาดล้างเสียด้วยเลย สมัยนี้เวลาผู้ชายอยากรู้จักผู้หญิงคนไหน ก็จะเข้ามาเช็คในโซเชียลมีเดียประกอบไปด้วย แล้วคุณจะปล่อยประวัติเน่าเสียไว้ทำลายตัวเองเพื่อ ?
7. ฝึกสร้างบุคลิกดีๆให้เป็นนิสัย เช่น ยิ้มอยู่เสมอ กวาดตามองคนรอบๆ ทำสีหน้าเป็นมิตร พูดจามีหางเสียง ของพวกนี้ถ้านานๆ เฟคทำต่อหน้าหนุ่มสักทีเราจะเกร็ง แต่ถ้าทำทุกวันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเองแล้ว คุณจะแสดงออกมาได้เป็นธรรมชาติ น่ารักน่าจีบกว่ากันเยอะ
8. พกอุปกรณ์ฉุกเฉินติดตัวตลอดเวลา อย่าง ลิปกลอสแก้ปากแตก น้ำยาดับกลิ่นปาก และที่ขาดไม่ได้เลยคือเจลล้างมือ เอาไว้ชุบทิชชู่เปียกทำความสะอาดได้ทั้งเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้า ในกรณีที่ซุ่มซ่ามทำน้ำจิ้มหกรด หรือถ้าวันไหนใส่เสื้อแขนกุดแล้วน้องเต่าเกิดส่งกลิ่นฟ้องตัวเองขึ้นมา เจลนี่ก็ช่วยหยุดกลิ่นแบบเฉียบพลันได้ด้วย
9. ลองให้ช่างทำผมออกแบบทรงผมที่เหมาะกับรูปหน้าของคุณให้ จะได้เปลี่ยนตัวเองฉีกความจำเจไปบ้าง แต่ถ้าโอเคกับทรงเดิมแล้ว ก่อนออกเดทควรให้ช่างตัดแต่งทรงให้สวยมีวอลลุ่ม พอทรงผมดีแล้วจะแต่งหน้าแต่งตัวก็ง่ายขึ้นเยอะ
10. ข้อนี้สำคัญมาก ก่อนไปเดทควรบอกตัวเองไว้ทุกครั้งว่าคุณจะไปเพื่อความสนุก หาเพื่อน และต้องเป็นฝ่ายเลือกผู้ชาย ไม่ใช่ให้เขาเลือกคุณ อย่าโอเคกับผู้ชายที่คุณไม่ชอบเพียงเพราะอยากได้แฟนมาฉลองปีใหม่ด้วย จำไว้! คนสวยอย่างเราเลือกได้จ้า!!
จะเปิดรับคนใหม่ทั้งที สถานที่ต้องอำนวย
11. เลิกกันทีกับการหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ผู้ชายแต่ละแบบจะมีแหล่งแฮงค์เอ๊าท์ของเขาเอง ถ้าไปเตร็ดเตร่ให้ถูกที่ คุณจะมีโอกาสได้เจอคนที่ใช่ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหนจริงๆ แค่ไปนั่งสวยในร้านกาแฟดีๆ ผับเก๋ๆ หรือไปขี่จักรยานในสวนสาธารณะก็ช่วยได้เยอะแล้ว
12. ถ้าคุณชอบหนุ่มติสต์ แนะนำให้ไปเข้าคอร์สสอนวาดรูป แกลเลอรี่ งานอีเวนท์เกี่ยวกับศิลปะ ถ้าชอบนักธุรกิจ อาจต้องไปเล่นกอล์ฟหรือลงเรียนคอร์สสั้นๆเกี่ยวกับการบริหาร และถ้าชอบผู้ชายอบอุ่นรักธรรมชาติ ให้ไปเข้ากลุ่มดำน้ำชมปะการัง รับรองว่าผู้ชายที่คุณต้องการ จะต้องอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยอย่างน้อยก็คนสองคนล่ะ
13. คบเพื่อนกลุ่มใหม่ๆบ้าง เพื่อนกลุ่มเดิมก็จะลากคุณไปเจอกับคนหน้าเดิม แต่นาทีนี้เราต้องการอะไรใหม่ๆ ซึ่งเพื่อนเก่าคงตอบโจทย์ไม่ได้แน่ๆ
14. เวลาไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ อย่ามโนเข้าข้างตัวเองว่าเรดาห์หาสาวสวยของเขาจะต้องสแกนมาเจอคุณ เพราะเรดาห์ของผู้ชายก็อาจจะเสื่อมได้เหมือนกัน เพื่อความปลอดภัยคุณจึงต้องยืนอยู่ในจุดที่จะดึงดูดสายตาเขาที่สุด เช่น ใต้โคมไฟ(จุดที่สว่างที่สุด) ข้างแจกันดอกไม้ (จุดที่มีสีสันที่สุด)
15. เปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง ถ้าไปกลับเส้นเดิมทุกวันมาเป็นปีแล้วไม่มีหนุ่มมาทักคุณเลย แสดงว่าถนนสายนี้ไม่เวิร์กแล้วละ หรือไปกินข้าวร้านนี้ทุกอาทิตย์ แต่ไม่เคยมีหนุ่มส่งยิ้มให้ ก็ควรเปลี่ยนไปนั่งสวยที่ร้านใหม่ได้แล้ว
16. งานปาร์ตี้เป็นชัยภูมิที่เราจะหาเพื่อนใหม่ได้เร็วและง่ายที่สุด เพราะทุกคนจะผ่อนคลายและพร้อมจะพูดคุยกับคนแปลกหน้า ฉะนั้นต่อไปนี้ ปาร์ตี้ปีใหม่ วันเกิด ฮัลโลวีน งานหมั้น ขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ ไปให้หมด! ยิ่งคุณออกสังคมบ่อยเท่าไรคุณก็มีโอกาสได้พบและเลือกผู้ชายที่คุณชอบได้มากขึ้นเท่านั้น
17. เลี่ยงสถานที่บางแห่งที่มีคู่แข่งเยอะเกินไป อย่าง โรงเรียนสอนทำอาหาร ก็ใช่อยู่ที่ผู้ชายแท้สมัยนี้หลายคนชอบไปเรียนทำอาหาร และคุณอาจจะได้พบเดอะวินเนอร์ก็ได้ แต่ขอบอกว่าโอกาสมีน้อยมาก..ก..ก ขณะเดียวกันที่นั่นกลับรายล้อมไปด้วยแก๊งสาวๆ ที่พร้อมจะมาเป็นคู่แข่งของคุณ เทียบแล้วเอาเวลาไปเรียนตีกอล์ฟที่มีผู้ชายมากผู้หญิงน้อย จะเป็นการบริหารเวลาที่คุ้มกว่ากันเยอะ
รุกร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
18 . ถ้าสายตาคุณบอกว่าชอบหัวใจบอกว่าใช่ แต่พ่อหนุ่มคนนั้นไม่เข้ามาคุยด้วยเสียที เทคนิคสานมิตรภาพเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด คือให้พยายามมองเขาบ่อยๆ สบตาแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร อย่าส่งสายตาจิกประมาณฉันอยากกินคุณ อันนี้จะดูน่ากลัวและโลว์เกินไปหน่อยนะจ๊ะ
19. ถ้ามองจนจะตาเอียงอยู่แล้วเขาก็ยังไม่รู้ตัวเสียที สเต็ปต่อไปให้คุณทำเนียนเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วยิงคำถามที่เขาไม่อึดอัดที่ต้องตอบ เช่น “ขอโทษนะคะ ช่วยหยิบช้อนให้หน่อย”(ถ้าเขายืนอยู่ใกล้บาร์) “นาฬิกาคุณสวยจัง พอดีกำลังหาของขวัญปีใหม่ให้พี่ชายอยู่ ซื้อที่ไหนหรือคะ” ทีนี้ในฐานะสุภาพบุรุษ เขาก็ต้องตอบคำถามคุณแล้วล่ะ
20. การเปิดบทสนทนาทำได้หลายหัวข้อ เช่นถ้าคุณไม่รู้จักเขาเลยจะเริ่มจากถามว่า”ทำงานอะไรคะ” ก็ได้ แล้วพอคุยไปสักพักก็ค่อยปูทางไปถึงเดทครั้งหน้า เช่น”ฉันไปเจอร้านอาหารเปิดใหม่ร้านหนึ่ง สวยมากเลย” พูดหนังที่คุณอยากดู เพลงที่คุณอยากฟัง ฯลฯ เขาจะได้ถือโอกาสชวนคุณไปดูหนังฟังเพลงได้สะดวกๆ ไง
21. อย่าทำลายเสน่ห์ของตัวเองด้วยการคุยประเด็นที่อาจสร้างความแตกแยก เช่นเรื่องการเมือง ทีมฟุตบอล ประเด็นเพ้อเจ้อดูไม่มีสมอง เช่น “หมอดูฉันบอกว่า” “คุณเชื่อเรื่องดวงไหม “ เรื่องส่วนตัวจัดๆ เช่นเรื่องแฟนเก่า เรื่องในครอบครัว และประเด็นที่บอกให้รู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าคบ เช่น วิจารณ์หน้าตาของผู้ชายโต๊ะข้างๆ ด่าเพื่อนร่วมงาน ถ้าคันปากอยากจะพูดเรื่องพวกนี้ ควรรอให้ผ่านเดทที่ 4-5 ไปก่อน ไม่อย่างนั้นรับรองว่าไก่ตื่นแน่นอนจ้า
