อยู่วงการอย่างยั่งยืน
ดาราคนไหนก็ทำได้

เคยสังเกตหรือไม่ว่า “นิรุตติ์ ศิริจรรยา” ในวันนี้อายุจะ 70 ปีแล้ว เข้าสู่วงการมาเนิ่นนานแล้ว เคยเป็นพระเอก-พระรอง ทั้งหนังและละคร ดํารงตนอยู่ในวงการดาราแบบ ขาดๆ หายๆ เพื่อไปแสวงหาอาชีพใหม่ ผันตัวเองไปเป็นผู้ประกาศข่าว… ไปเป็นพิธีกร… อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ

จนมาถึงวันนี้ในวัย 70 ปี “พี่หนิง-นิรุตติ์ ศิริจรรยา” มีงานไม่ขาดมือเลย สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ วันที่เขามีวัย 70 ปี เป็นช่วงชีวิตของพี่หนิง เฟื่องฟูที่สุดตั้งแต่เข้าทํางานวงการบันเทิง

ปัจจุบันนี้ค่าตัวของ “นิรุตติ์” สูงพอๆ กับพระเอก-นางเอกดังๆ ในปัจจุบัน ถ้าใครจะจ้างพี่หนิงลงหนังหรือลงละคร เพราะบทบาททางการแสดงที่เข้าถึง ละครหรือหนังถ้ามีนิรุตติ์แสดงก็จะกลายเป็นละครหรือหนังฟอร์มใหญ่ ตรงนี้ทําให้เขาเลือกงานได้

ในงานบรรยายสารคดีในจอทีวีมีอีกเพียบ งานอ่านสปอตโฆษณาที่เรา คุ้นหูทางจอทีวี “นิรุตติ์ ศิริจรรยา” ก็มีไม่เว้นแต่ละวัน ค่าตัวก็แพงมหาศาลถึงค่าตัวแพงลูกค้าก็ยินดีจ่าย ใครจะเชื่อว่าวันที่เขาหล่อเหลาเป็นพระเอกเจ้าเสน่ห์ ยังมีงานเข้าน้อยกว่าวันที่เขาจะมีวัย 68 ปีเลย นี่คือสิ่งที่อยากบอกอยากเล่าให้ดาราเด็กๆ รุ่นใหม่ๆ ฟัง

ดาราถ้ารู้จักวางตัว รู้จักใช้ชีวิตอยู่กับความดัง ความหล่อ ความสวย เป็น ใช้ชีวิตแบบที่มนุษย์เป็นกัน ชีวิตบั้นปลายก็ไม่ลําบาก

ดาราส่วนใหญ่ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบันสิ่งที่พวกเขามีคือ รับไม่ได้กับดาราใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาเยอะแยะ ปากยินดีแต่แอนตี้ในใจ ไม่อยากให้มีเด็กใหม่ มาแย่งงาน แต่วิถีชีวิตดาราต้องมีคลื่นลูกเก่า-ลูกใหม่เสมอ

“อารมณ์ความเป็นดารา” คือ เห่อตามเพื่อน เช่น เขาใช้ของแบรนด์เนม แพงๆ เปลี่ยนเป็นว่าเล่น จะมีบ้างไม่ว่ากัน อย่าเปลี่ยนถี่ยิบเหมือนเพื่อน ดาราสาวบางคน อาจมีคนมีตังค์มาจีบ อาจไม่ต้องใช้ตังค์ตัวเอง

อย่าอิจฉาเพื่อนที่มีคนรวยมาจีบ ให้คิดว่านั่นคือลวงตา คนรวย-คนมีตระกูลไม่ถึง 1% ที่มีแฟนเป็นดาราแล้วคิดจะแต่งงาน เพราะสังคมภายนอกมองว่า วงการดาราเละเทะ เปลี่ยนผัว-เปลี่ยนเมียบ่อยเอามาเป็นคู่ หลานออกมาจะเอาหน้าไว้ไหน

ดาราในความรู้สึกของคนมีเงิน เขามองเป็นแอพพิไทเซอร์ หรือของว่าง ก่อนจะเสิร์ฟเมนคอร์ส… เป็นประสบการณ์ทางเพศก่อนที่จะเข้าวิวาห์กับแฟน ที่สมน้ําสมเนื้อ มีตระกูล-มีฐานะทัดเทียมกันหรือได้แต่งงานกันจริงๆ…นับไว้ได้เลยว่า จะอยู่กันยืดแค่ไหน อยู่นานเพียงใด ความสวยมีวันโรยรา คนมีเงิน ความรักเขาไม่มีจบอยู่แล้ว ลองชั่งใจดูว่าเราจะหนักแน่นแค่ไหน กับการที่เป็นดาราสวยๆ สามีไปมีผู้หญิงอื่น นอกจากไม่ให้เกียรติแล้ว นั่นหมายถึงรังแกใจแบบซึ่งๆ หน้าด้วย

เวลาดาราแต่งงานอึกทึกครึกโครมเป็นข่าวสะเทือนเมือง แต่รู้หรือไม่ว่า เลิกกันแล้วมากมาย แต่ไม่เป็นข่าวให้เห็น เพราะละอายที่จะเปิดเผย

“ดาราจมลง” คือรู้จักใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป คิดว่าอาชีพดารา คืองานเหมือนชาวบ้านเขาทําางานออฟฟิศ ต่างกันตรงงานดาราไม่เป็นเวลา พนักงานออฟฟิศต้องตอกบัตร ดีกว่าตรงงานของดารามีรายได้มากกว่า… (เป็นส่วนใหญ่) เมื่อมีรายได้มากกว่า รู้จักเก็บออม-รู้จักบริหารเงิน รู้จักใช้จ่าย คุณมีบ้านมีรถ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ถ้าฝีมือดี-นิสัยดีคุณจะได้โอกาสดีๆ ประคองตัวอยู่ในวงการตลอดไป

“ดาราจมลง” ไม่ค่อยคิดอะไรที่เกินตัว คิดในส่วนที่ตัวเองสัมผัส และมีกําลังพอที่จะทําความรู้จักคบเพื่อนที่มีหัวธุรกิจ รู้จักหารายได้เสริมให้กับตัวเอง จะเปิดร้านอาหาร ทําาธุรกิจเสื้อผ้า ทําาธุรกิจเครื่องสําอาง หรืออะไรก็ได้ที่ลงทุนไม่มาก และมองเห็นกําาไร

อย่าง “อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง” ก็คือเป็นแบบอย่างที่ดีของดารารุ่น ใหม่ๆ ได้ เพราะเขาทําางานหนัก บริหารงาน บริหารคนเป็น เวลานี้ถือเป็นเศรษฐีดาราคนหนึ่งที่มีบทบาทและบารมี หรือดาราเก่าๆ บางคน อย่าง “พล ตัณฑเสถียร, ศัลย์ อิทธิสุขนันท์, เชิญจุติ มณเฑียรมณี” ฯลฯ และอีกหลายคนอย่าง “พล” ทําร้านอาหารประสบผลสําเร็จอย่างดีมากๆ มีรายได้เป็นล้านๆ ต่อเดือน ร้านอยู่ตัวก็ไปรับละครบ้าง-หนังบ้าง-ออกรายการทีวีบ้าง ดาราหลายๆ คนในวงการเริ่มรู้จักบริหารชื่อเสียงตัวเอง

ดาราถ้ารู้จักคิด-ถ้ารู้จักวางแผน ช่องทางในการสร้างรายได้เสริมมีมากมาย อย่าคิดแต่จะเอาความสวยความเซ็กซี่ไปเป็นด่านหน้าให้คนรวยๆ มาจีบหรือแต่งตัวเท่ เพื่อจะไปจีบลูกสาวคนรวยๆ เพราะอยากรวยทางลัดต้องสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง-คนนอกวงการหรือวงการอื่นๆ จะได้ไม่ตําหนิว่าวงการบันเทิงสวย-หล่อ แต่ไม่มีสมอง นมใหญ่แต่ไร้กึ๋น บางทีเราฟังแล้วก็สะอึกเหมือนกัน

สรุปว่า “จมไม่ลง” คืออาการที่ดาราส่วนใหญ่รับไม่ได้ เช่นอิจฉาเพื่อนที่เห็นเพื่อนดังกว่า ก็เลือกไปคบคนที่มีเกรดความดังทัดเทียมกันทั้งหลายทั้งปวง คือที่มาของอาการ “จมไม่ลง” ของภาระทั้งสิ้น เพียงแต่คุณจะบริหารจัดการอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองอย่างไร เพื่อจะประคองและดํารงตนเพื่อเป็นดารา-ศิลปินตลอดไปจนแก่เฒ่า-คุณยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้แค่ไหน ทําไมไม่ปล่อยวาง

หันมาสนใจตัวเอง-จัดระบบบริหารใจ-บริหารเงินตัวเองก่อนที่พายุดาราใหม่ๆ ที่พุ่งมาเป็นขบวนพาเหรดเพื่อมาแย่งงาน ตั้งหลักแล้วบอกตัวเองว่า “เราจะจมลง-ไม่หลงระเริงมายา” เหล่านี้คือเคล็ดลับง่ายๆ ของดาราที่อยากอยู่ในวงการนานและมีคุณค่ามหาศาลอย่าง “พี่หนิง-นิรุตติ์ ศิริจรรยา” เป็นต้น

Tony Aigner

by TVPOOL ONLINE