อัพเกรดไอเดีย! บันได 6 ขั้น..เพิ่มพลังสร้างสรรค์ให้ตัวเอง
คนทุกคนมีพลังสร้างสรรค์อยู่ในตัว แต่จะหยิบออกมาใช้กันได้มากแค่ไหน ก็อยู่ที่การขัดเกลาของเรา และนี่คือวิธีเพิ่มพลังให้ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้
1. มองต่างมุม
ความคิดของคนเราจะถูกกำหนดจากมุมมองของเราเอง ถ้าหากเราเคยชินกับอะไร มุมมองของเราก็จะโน้มเอียงไปในทางนั้น ทำให้ความคิดติดอยู่ในกรอบ คิดอะไรก็หนีไม่พ้นอีหรอบเดิม ก่อนอื่นเราจึงต้องพยายามมองต่างมุม ลองคิดอะไรในมุมกลับดูบ้าง ทำบ่อยๆจนกระบวนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของสมองคุณ พอมุมมองและวิธีแก้ปัญหาของคุณเปลี่ยนไปแล้ว สมองก็จะผลิตงานดีๆออกมาได้อีกเพียบ
2. เป็นนักสร้างภาพ
ใครไม่ถนัดสร้างภาพ ถึงเวลาต้องพัฒนาฝีมือกันแล้ว ถ้าหากคิดไอเดียใหม่ๆ ได้อย่าเพิ่งรีบสรุป ให้วาดทุกอย่างออกมาเป็นภาพง่ายๆ อย่างภาพการ์ตูน แผนผัง แผนภูมิ หรือถ้าฝีมือวาดรูปของคุณมืดมนไม่มีอนาคตจริงๆ จะวาดเป็นรูปต้นไม้ แล้วแตกใบออกเป็นหัวข้อต่างๆ ก็ยังได้ ระหว่างที่จรดดินสอขีดเขียนอยู่นั้น ใจเราจะเป็นสมาธิ ทำให้ไอเดียอื่นที่คุณคิดไปไม่ถึงผุดขึ้นมาอีก ส่วนที่ให้วาดรูปแทนการเขียนเป็นตัวหนังสือ เพราะคำพูดจะไปตีกรอบความคิดของเรา อย่างถ้าเราเขียนว่าเสื้อสีส้ม สมองก็จะผนึกความคิดว่าเสื้อต้องเป็นสีส้ม ผิดกับการวาดภาพที่ยิ่งวาดเราก็จะยิ่ง จินตนาการได้กว้างไกลออกไปไม่สิ้นสุด
3. คิดมากกว่าหนึ่ง
อัจฉริยะนักคิดทั้งหลายก็เกิดและโตบนดาวโลกเหมือนกับเรานี่ล่ะ แต่ที่พวกเขาสามารถคิดอะไรแปลกใหม่มากกว่าคนทั่วไป เพราะความคิดของอัจฉริยะเหล่านี้ยืดหยุ่นอยู่ตลอดเวลา เราก็เป็นอย่างนั้นได้ด้วยการฝึกตัวเอง ลองตั้งโจทย์ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง แล้วแตกความคิดออกไปให้มากที่สุด อย่างคิดว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัด จากนั้นก็คิดให้ทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับทริปนั้น พอคิดได้รอบด้านแล้วค่อยลงรายละเอียดในแต่ละแง่มุม เวลาฝึกกระบวนการนี้คุณไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลมาก อยากมโนแค่ไหนก็จัดเต็มไปได้เลย พอทำบ่อยๆ ไอเดียก็จะลื่นไหลคิดได้ในหลายแง่มุม เข้าใกล้อัจฉริยะเข้าไปทุกที
4. หลอมรวมความคิด
เวลานักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องประดิษฐ์ผลงานระดับโลก บางทีก็ไม่ได้คิดเองทั้งหมด แต่เป็นการเอาไอเดียที่คนอื่นครีเอทไว้มาเสริมด้วยความคิดของตัวเอง หรืออาจจะเอาไอเดียของคนที่หนึ่งมาบวกกับคนที่สอง จนได้เป็นมุมมองของตัวเอง ถ้าหากแนวคิดนั้นยังไม่เวิร์ก ก็แตกไลน์ขยายความคิดต่อไปเรื่อยๆ ปรับไปมาบนพื้นฐานของเหตุผลจนได้ชิ้นงานที่พอใจ คุณก็ทำอย่างนั้นได้ ขอแค่ไม่ขี้เกียจคิดเท่านั้นเอง
5. มองจากมุมของคนอื่น
นักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างโลกใต้น้ำท่านหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้มองว่าคนบนบกเฮฮาปาทังก้ากันอีท่าไหน แต่มองข้ามช็อตไปถึงเปลือกหอยในทะเล ว่ามันกินอยู่หลับนอนอย่างไร จากนั้นก็เอามาประยุกต์ให้เข้ากับร่างกายของคน จนกลายเป็นเมืองที่มนุษย์ลงไปอยู่ได้ ที่วิธีนี้ได้ผลเพราะมุมมองของเรามักจะจำเจ คิดกี่ทีก็หนีไม่พ้นมุกหากินเดิมๆ แต่มุมของคนอื่นเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเรา ถ้าเปลี่ยนไปคิดในมุมนั้นสมองจะผลิตไอเดียใหม่ๆ ได้หลากหลายกว่า และส่วนใหญ่จะเป็นไอเดียที่ดีเสียด้วยสิ
6. ความรู้คือพลัง
ข้อมูลเดิมๆ ก็ผลิตแต่ความคิดเดิมๆ ถ้าอยากมีความคิดหลากหลายเราจึงต้องป้อนข้อมูลใหม่ๆให้ตัวเอง นี่คือเหตุผลที่คนฉลาดต้องขยันหาความรู้ใส่ตัวตลอดเวลา ทำไปเถอะ เวิร์คจริงๆ