เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

        มีดราม่าให้เห็นกันแทบจะทุกวัน กับเรื่องราวทะเลาะกันที่เกิดจากอารมณ์โมโห ทั้งที่บางเรื่องเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ยังบานปลายได้ใหญ่โต เพราะความควบคุมอารมณ์โกรธไม่เป็นนี่ล่ะ

ยิ่งถ้าใครเป็นสายหัวร้อนง่ายนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเจออะไรนิดหน่อยก็จะโมโห วี้ดบึ้มไปหมด คนประเภทนี่ก็จะมีเรื่องร้อนใจเยอะหน่อย ใครที่รู้ตัวว่าอยู่ในประเภทนี้ ลองมาฝึกตัวเองให้เย็นลง ด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญกันดีกว่า โดยเขาได้แนะนำเอาไว้ว่า ถ้าอยากเลิกนิสัยหัวร้อนง่ายนี้ให้ได้ เราต้องค้นหาก่อนว่า ต้นตอที่แท้จริงของความโกรธคืออะไร แล้วค่อยไปปรับทัศนคติเสียใหม่เพื่อรับมือกับมัน

 

1. โกรธเพราะต้องการคุมเกม

ที่คนบางคนจี๊ดง่าย เพียงแค่มีคนขัดใจ ก็เพราะต้องการเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ เลยชอบใช้วิธีตะเบ็งเสียงใส่ฝ่ายตรงข้าม ข่มขู่ ด่าว่า ขว้างปาข้าวของ ไปจนถึงทุบตีทำร้ายร่างกาย เพื่อแสดงอำนาจว่าฉันนี่ละใหญ่ และส่วนมากก็จะชนะเสียด้วยสิ แต่การควบคุมคนอื่นด้วยวิธีนี้จะได้ผลเพียงชั่วครู่เท่านั้นนะ สุดท้ายแล้วคนรอบข้างก็จะเบื่อแล้วปลีกตัวหนีไปกันหมด

วิธีปรับตัว: ลองทบทวนผลเสียจากการกระทำของตัวเอง คิดเยอะๆ ว่าคนที่คุณรักเขาเหนื่อยใจแค่ไหน และคุณจะทนได้ไหมถ้าพวกเขาทิ้งคุณไป จากนั้นเวลาโกรธให้ตั้งสติดีๆ ก่อนจะพูด พยายามใช้วิธีประนีประนอม รับฟังเหตุผลของฝ่ายตรงดีกว่าจะมาเอาชนะกันด้วยอารมณ์


2. ใช้ความโกรธปกป้องตัวเอง

คนที่ทำท่าฮึดฮัดอาละวาดโวยวาย ไม่ใช่จะกล้าหาญกันทุกคน บางคนก็ทำไปเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอ เพราะกลัวจะเป็นผู้แพ้ กลัวถูกหาว่าอ่อน คนพวกนี้จึงพยายามสร้างอาณาเขตขึ้นมาป้องกันตัว ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามบุกรุกเข้ามาได้

วิธีปรับตัว: อย่าอายที่จะอ่อนแอ เพราะเอาเข้าจริงแล้วเราทุกคนก็มีความอ่อนแอซ่อนอยู่กันทั้งนั้น ยิ่งฝืนทำห้าวต่อไป นอกจากตัวเองจะเดือดร้อนแล้ว อาจทำให้คนที่รักและห่วงคุณทนไม่ไหว แล้วชิ่งหนีไปกันหมดได้นะ

3. โกรธเพราะไม่อยากรับผิดชอบ

คนแบบนี้ชอบฟังคำชมแต่จะอ่อนไหวกับคำตำหนิ ก็เลยใช้วิธีโยนความผิดให้คนอื่นซะงั้น และแพะรับบาปก็หนีไม่พ้นข้ออ้างพวกปมด้อยหรือปัญหาชีวิตต่างๆ อย่าง ที่ฉันเป็นอย่างนี้เพราะบ้านขาดความอบอุ่น เมา อกหัก นู่นนี่นั่นโทษไปเรื่อย

วิธีปรับตัว: จำไว้ว่าไม่ว่าชีวิตจะมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นมากแค่ไหน แต่คนที่ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรก็คือคุณเอง คุณจึงต้องรับผิดชอบพฤติกรรมของตัวเองด้วย คนอื่นเขาไม่มานั่งเห็นใจความโชคร้ายของคุณหรอกนะ

4. โกรธจนเป็นนิสัย

พูดง่ายๆ ว่าทำบ่อยจนเสพติดความโกรธไปแล้ว คนแบบนี้ไม่มีเหตุผลดีๆ มารองรับการกระทำ แค่นึกอยากจะวีนเมื่อไรก็วีน อยากจะปรี๊ดเมื่อไรก็อาละวาด ถ้าจะให้เก๋ก็เรียกได้ว่าอาร์ตตัวแม่ แต่ถ้าพูดตรงๆ ก็คือคนเอาแต่ใจ ไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นนั่นล่ะ

วิธีปรับตัว: เมื่อไรที่รู้สึกหงุดหงิดที่คนอื่นทำงานชักช้าไม่ได้ดั่งใจ ให้คิดในมุมกลับว่าอาจจะเป็นคุณเองก็ได้ ที่ใจร้อนเกินไป ลองลดความคาดหวังในตัวคนอื่นแล้วเปลี่ยนมามองที่ตัวเองดู แล้วคุณจะผ่อนคลายกว่าที่เป็นอยู่

5. มีความสุขที่ได้โกรธ

คนที่รู้สึกว่าความโกรธเป็นสีสันของชีวิตแบบนี้มีอยู่จริงๆ คนพวกนี้มักจะยกให้ความโกรธ เป็นโมเมนท์ที่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้แสดงออก นาทีนั้นไม่มีความเซ็ง ไม่มีความหดหู่ แม้แต่ปัญหาที่กำลังนอยด์อยู่ก็ถูกลืมไปจากสมอง แบบว่าโกรธทีเดียวโลกนี้ก็กลายเป็นสีชมพูว่างั้นเถอะ

วิธีปรับตัว: ถ้าอยากกระตุ้นพลังงานชีวิตยังมีวิธีอื่นให้คุณเลือกถมไป อย่างไปออกกำลังกาย ไปปาร์ตี้ โทรคุยกับเพื่อน เห็นไหม ไม่จำเป็นต้องหาความตื่นเต้นด้วยการทำตัวอารมณ์ร้าย ให้คนอื่นเบ้เป็นปากสระอิใส่เลย

 

คิดและทำตามได้ทั้งหมดนี้ คอนเฟิร์มว่าจะช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายอีกเยอะเลยเชียว