“วุ้นเส้น วิริฒิพา” เปิดใจถึงภาพกอดกันกับเพื่อนซี้ “เจนี่” โดยเผยว่า สำหรับงานแต่งงานของ “มาร์กี้” ที่ผ่านมา เราก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีไปเจอกับเพื่อนๆ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีคุยอะไรกันเลย ก็จะมีโอกาสได้เจอกันวันนั้น เราก็นั่งโต๊ะเดียวกัน ก็มีโอกาสได้คุยได้เจอกัน คนที่เป็นสื่อกลาง ก็เป็น “นานา” เพราะเขาก็ลุ้นมาโดยตลอด แต่ “นานา” เขาก็ไม่ได้จะกดดันใคร เป็นตามธรรมชาติ เดี๋ยวเจอกันก็คุยกันเอง เพราะพื้นฐานความเป็นเพื่อของเราก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีเวลาช่วงไหนที่จะได้คุยกัน เราก็นั่งโต๊ะเดียวกัน ก็คุยกันเอง แต่ก็มี “นานา-เวย์” คอยลุ้นว่าจะมองกัน จะคุยกันเมื่อไหร่ และก็มีจังหวะ
ถามว่ามีการเตรียมใจก่อนมาไหม? ตนไม่มีเตรียมอะไรเลย และคิดว่า “เจนี่” เองก็ไม่ได้เตรียมอะไร รู้ว่าต้องมาเจอกัน เพราะว่าเราก็อยากมาร่วมงานครั้งนี้ แต่ตนก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอกัน แต่สถานการณ์จะเป็นอย่างไรเราก็ไม่รู้ บรรยากาศวันนั้นเราไม่ได้คุยอะไรกันเรื่องเก่าเลย อยูกับปัจจุบัน เพราะเราก็ผ่านอะไรกันมาเยอะ อยากให้คนมองว่าคนที่ดีกัน ก็สนับสนุนกันดีกว่า เพราะว่าคนก็มอง 2 มุมเยอะไปหน่อย
ส่วนเรื่องราวที่ผ่านมานั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกัน เพราะไม่ได้มีอะไรต้องเคลียร์ ด้านความรู้สึกของวันนั้นที่ “เจนี่” ร้องไห้ ตนก็รู้สึก จริงๆ ภาพที่คนเห็นอาจจะแปปเดียว 10 วินาที อาจจะไม่ได้บอกอะไรได้ แต่เราคุยกันมากกว่านั้น และก็เป็นเรื่องที่คุยกัน 2 คน ความรู้สึกตอนนั้นก็ดีใจ ตนเชื่อว่าเรา 2 คน ไม่อยากให้มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น พอได้คุยกันเราก็สบายใจกันทั้งคู่ และไม่ใช่แค่เรา 2 คน เพื่อนๆ รอบข้างก็สบายใจด้วย ความสนัทใจยังเหมือนเดิม
สำหรับที่คนมาร่วมแสดงความยินดีที่เราคืนดีกัน ตนก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้าใจเรา 2 คนในบางทีที่มีเรื่องไม่เข้าใจกัน เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่พอดีกัน ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี อยากให้คนมองแบบนี้มากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีที่คนแฮปปี้กับเรา
ส่วนภาพหน้างานที่เดินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คุยกัน แต่มียิ้มให้กันนิดหน่อย ก็เพราะว่าต่างคนต่างรีบเดิน แต่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน ด้านเพื่อนๆ ในกลุ่มทุกคนก็แฮปปี้ เขาก็รอมา โดยเฉพาะ “นานา” น่าจะสบายใจสุด ด้านทริปรวมแก๊งตนก็ไม่รู้ว่าจะมีไปเที่ยวอะไรเมื่อไหร่ แต่คงมี เดี๋ยวจะมาอัปเดทเรื่อยๆ
แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้คุยกัน “เจนี่” ก็บินไปต่างประเทศ ก็มีคุยไลน์กันในกลุ่มไลน์
สำหรับมุมมองเรื่องความรักของเพื่อนกับความรักของแฟน จริงๆ ตนมองว่าความรักมันเป็นเรื่องของคน 2 คน เราก็ไม่สามารถไปสัมผัสได้แต่ในส่วนของความเป็นเพื่อน ตนก็ไม่เคยทำร้าย ไม่เคยคิดไม่จริงใจ หรือคิดไม่ดี แต่ด้วยสถานการณ์บางอย่าง มันอาจจะมีเข้าใจผิดกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเวลามันก็ช่วยให้ทุกอย่างลงตัว เขาก็เข้าใจเรามากขึ้น พอถึงวันนั้นมันก็กลับมาดีกันได้
ด้านเรื่องเก่าก็ไม่มีใครอยากพูดถึง พูดไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ส่วนคำอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้นเราคุยกันอยู่แล้วก็ไม่ได้อยากพูดเรื่องเก่า เพราะมันก็ดีแล้ว