เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

       อั้ยย่ะ! เรียกซวยรับต้นปีทีเดียว สำหรับนางเอกคนดัง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” หลังเจ้าตัวถูกเพื่อนบ้าน “นางอัมภิกา แพเจริญชัย”  แจ้งความลงบันทึกประจำวันว่าแพนเค้กปล่อยสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี ที่เป็นสุนัขของนางเอกสาวบุกเข้าไปกัดไก่แจ้ และทำลายข้าวของภายในบ้านพัก เพื่อนบ้านเรียกค่าเสียหาย 1 แสนบาท แต่ตกลงกันไม่ได้ ถึงขั้นบานปลาย งานนี้ สารวัตรหมี ร.ต.อ.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ แฟนหนุ่มของแพนเค้ก ได้พาสายตรวจ สน.มีนบุรี ไปช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่เป็นผล พอได้พบสาวแพนเค้กจึงต้องให้เคลียร์เรื่องซะหน่อย?
            
       “ผู้ที่เห็นเหตุการณ์คือแม่บ้านของเรา ที่พอน้องหมาหลุดก็วิ่งตามไปดูเลยเห็นว่าไม่ได้เข้าบ้าน และไม่ได้มีความเสียหายใดๆ ทันทีที่ทราบเรื่องแพนก็ได้ไปกราบขอโทษ ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แพนไม่ได้เห็นเอง มีคุณพ่อที่เห็นน้องหมาเราไปคาบไก่ของข้างบ้านมา ซึ่งไก่ก็ไม่ได้ช็อกหรือสลบ คุณพ่อเลยให้คุณหมอที่เป็นสัตวแพทย์ดูแลน้องหมาบ้านเรามารักษาจนหายดี จ่ายค่ารักษาทุกอย่าง”
       
       “จริงๆ เรื่องทั้งหมดแพนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เนื่องจากติดถ่ายละครเรื่อง พรมแดนหัวใจ ที่ต่างจังหวัดกับคุณแม่ เท่าที่ทราบเหตุการณ์แม่บ้านของแพนเอาสุนัขออกไปวิ่งเล่นหน้าบ้านในเขตรั้วบ้านของเราตามปกติ แต่ด้วยเชือกหลุด แม่บ้านไม่ทันระวัง เลยหลุดไปที่บ้านหลังนั้น ซึ่งบ้านของคุณป้าเพื่อนบ้านไม่ได้ปิดประตู แต่น้องหมาไม่ได้เข้าไปในบ้าน อยู่แค่บริเวณบ้าน”
       
       “ผู้ที่เห็นเหตุการณ์คือแม่บ้านของเรา ที่พอน้องหมาหลุดก็วิ่งตามไปดูเลยเห็นว่าไม่ได้เข้าบ้าน และไม่ได้มีความเสียหายใดๆ ทันทีที่ทราบเรื่องแพนก็ได้ไปกราบขอโทษ ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แพนไม่ได้เห็นเอง มีคุณพ่อที่เห็นน้องหมาเราไปคาบไก่ของข้างบ้านมา ซึ่งไก่ก็ไม่ได้ช็อกหรือสลบ คุณพ่อเลยให้คุณหมอที่เป็นสัตวแพทย์ดูแลน้องหมาบ้านเรามารักษาจนหายดี จ่ายค่ารักษาทุกอย่าง”
       
       “ครั้งที่สองก็เข้าไปบ้านคุณป้าข้างบ้านอีก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ครั้งที่สามที่เกิดเมื่อสองวันก่อนที่น้องหมาของเราเข้าไปทางคุณป้า หมาไม่ได้เข้าไปโดนตัวคุณป้า แค่ชนมุ้งลวด ไม่ได้เข้าไปในบ้าน ไม่ได้ชนกันเลย น้องหมาของแพนไม่มีประวัติกัดใครจะขี้เล่น ซน แต่แรงเยอะเท่านั้นเอง ใครมาที่บ้านก็มีความสัมพันธ์ที่ดี เป็นความซนตามธรรมชาติของหมา แต่คุณป้ายืนยันว่าจะเรียกค่าเสียขวัญ 1 แสนบาท ถ้ามีครั้งต่อไปก็จะเรียก 1 ล้านบาท พร้อมระบุว่าจะมีการทำร้ายน้องหมาเรา แล้วบอกกับทางเราว่าถ้าน้องชายคุณป้าอยู่อาจจะมีการยิงน้องหมาเราทิ้ง เอาเข็มขัดมาไล่ฟาดเพื่อให้ออกไปด้วย นี่คือเท่าที่ทราบมา”
       
       “อย่างที่เขาบอกประตูบ้านเสียหาย แค่ประตูตกราง สามีเขาก็ดันกลับเข้ารางไปใหม่ ไม่ได้พังอะไร หรือจากกรณีบอกว่าน้องหมาเราไปชนเขาจนเซก็ไม่ได้มีอะไรเลย คนที่เห็นเหตุการณ์คือแม่บ้านเราสองคนที่รีบวิ่งไปจับ สุดท้ายเขาก็ไม่คุย จะคุยกับเจ้าบ้านคือคุณพ่อคุณแม่ของเรา ซึ่งวันที่เกิดเหตุน้องหมาเข้าไปครั้งที่สามนั้น คุณพ่อก็เข้าไปคุยกับคุณป้าพร้อมพี่หมี พี่หมีก็แนะนำเรื่องทางด้านกฎหมาย และดูช่วยเรากรณีที่เขาจะมาเรียกค่าเสียหายในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมากกว่า”
       
       แล้วจะทำอย่างไรต่อไป?
       “แต่ทั้งหมดเราก็ขอโทษ ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ถ้าต้องรับผิดชอบในส่วนที่เสียหายเรายินดีรับผิดชอบตามความเป็นจริง คุณพ่อแพนไปคุยด้วยตัวเองที่บ้านคุณป้าแต่ตกลงกันไม่ลงตัว เลยไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักไว้ เราก็จะไปตกลงกันตรงนั้น ผลสรุปเป็นยังไงคงต้องถามคุณพ่ออีกครั้งว่าจะตัดสินใจยังไง แต่เท่าที่คุยเรื่องเงิน 1 แสนมันก็ค่อนข้างมากเกินไป เราจะจ่ายและซ่อมตามความเป็นจริง เช่น หากมุ้งลวดพังก็จะเอาช่างไปซ่อมดูแลให้ ซึ่งแพนว่าไม่น่าจะถึง 1 แสน ซึ่งไม่ทราบว่าเพราะอะไรถึงต้องเป็นจำนวนเงินมากขนาดนั้น”
       
       จะป้องกันเหตุการณ์ในอนาคตได้ยังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก
       “ส่วนมาตรการระยะยาวของครอบครัวบ้านนั้น จริงๆ รั้วบ้านก็สูงสุนัขก็ออกมาในพื้นที่ของเรา เพียงแต่เชือกหลุดมือน้องหมาก็วิ่งออกไปเท่านั้น ตอนนี้ก็ไม่ให้น้องหมามาเล่นหน้าบ้านแล้ว ให้เล่นแต่ในบ้าน ถ้าออกมาแพนจะเป็นคนจูงเอง แล้วมากำชับคนที่บ้านอย่าปล่อยหมาเราไปแบบนั้น เรารู้หมาเราซน ทางป้าเพื่อนบ้านคงไม่ชอบและกลัว เราก็ระวังจนมาเกิดเรื่องอีกครั้งก็ยืนยันจะชดใช้ค่าเสียหายตามความเหมาะสม อันที่จริงในหมู่บ้านเราบางทีมีน้องหมา หรือ นกของบ้านคนอื่นหลงมาเราก็จะช่วยกันเอาไปคืน ในซอยก็มีเพื่อนบ้านคนอื่นๆ เลี้ยงน้องหมากันเยอะ บ้านแพนอยู่หน้าหมู่บ้านเลยเข้าไปก็มีคนเลี้ยงอีกเยอะ เย็นก็มีคนพาน้องหมาออกมาเดินไม่ได้มีปัญหาอะไร”
       
       ยันที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากันจริง!
       “ที่ผ่านมาก็อยู่กันปกติ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันไม่ได้เคยทะเลาะเบาะแว้ง มีแค่เรื่องน้องหมา ซึ่งเราเป็นเด็ก เกิดเรื่องก็เข้าไปกราบขอโทษ เอากระเช้าผลไม้ไปให้ แต่ส่วนใหญ่เจอลูกสาวของคุณป้า ส่วนจะตกลงกันยังไงก็ต้องรอคุณพ่อให้คำตอบอีกครั้งว่าบทสรุปเป็นอย่างไร พยายามไกล่เกลี่ยให้ดีที่สุด”

TV Pool Online