เรียกได้ว้่ายังตกเป็นกระแสสังคมอย่างมาก กรณีภาพผลงานกราฟฟิตี้ “เสือดำ” ถูกวาดขึ้นโดยศิลปินกราฟฟิตี้บนกำแพงสาธารณะ ซึ่งถูกตามลบในเวลาต่อมานั้น กระทั่งเพจเฟซบุ๊ก “A CALL for Animal Rights Thailand” ออกแคมเปญเชิญชวนศิลปิน และเจ้าของบ้านที่มีพื้นที่ส่วนบุคคล สามารถวาดภาพเสือดำ บนกำแพงที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน ซึ่งทำให้มีศิลปิน และเจ้าของบ้านออกมาแสดงผลงานเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด นางลีนา จังจรรจา หรือ “ลีน่า จัง” เปิดเผยถึงกรณีศิลปินไปวาดภาพกราฟฟิตี้บนกำแพงว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะหากไปพ่นสีบนกำแพงของผู้อื่น ถือว่ามีความผิดในเรื่องการบุกรุก รวมถึงทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และหากไปพ่นบนกำแพงที่สาธารณะ หรือสถานที่ของราชการ จะต้องโทษจำคุกอีก 5 ปี เพราะเป็นการทำลายทรัพย์สินของราชการ
ถึงแม้คดีนี้ สังคมต้องการที่จะช่วยกันปลุกระดมแต่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ก็ได้เข้ามอบตัวแล้ว และยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เพราะศาลยังไม่ตัดสิน อีกทั้งยังไม่มีใครทราบผลสรุปว่านายเปรมชัย และลูกน้อง เป็นผู้ยิงเสือดำตัวดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ศาลไม่ได้ตัดสินคดีนี้จากกระแสของสังคมที่ออกมาต่อต้าน แต่ศาลตัดสินจากกฎหมาย อย่างโทษทารุณกรรมสัตว์ ที่ออกมาเรียกร้องนั้น ก็มีบทลงโทษเพียงนิดเดียว ตนอยากให้สังคมมองไปที่ประเด็นการบุกรุกป่า และนำอาวุธปืนเข้าไปในป่า ซึ่งมีโทษร้ายแรงกว่าอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม กรณีการพ่นสีตามกำแพง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น ตนคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะหากต้องการรณรงค์ก็ควรทำเฉพาะในกลุ่มของตัวเอง ยิ่งศิลปินซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ จะต้องมีวุฒิภาวะมากกว่าคนทั่วไป ตอนนี้เหมือนกับทำด้วยอารมณ์ความรู้สึก และกระทำอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งไม่สมควร เพราะจะทำให้มีการทำเลียนแบบ แล้วอาจนำไปสู่การเขียนข้อความที่หมิ่นประมาทผู้ต้องหา
ยังรวมถึงดาราหลายท่านที่เกาะกระแสว่าจะขึ้นรูปภาพเสือดำตลอดไปด้วยนั้น ตนคิดว่าควรเลิกเถอะ ประชาชนหลายคนมองท่านเป็นไอดอล ควรจะระมัดระวังการนำเสนอ ไม่ใช่มาระรานคนอื่น แม้ว่าคุณจะรักสัตว์ แต่ก็ไม่ควรจะรณรงค์ให้คนไประรานโจมตีผู้อื่นว่าให้นำตัวผู้ต้องหาติดคุกให้ได้ ทั้งที่ควรจะรอให้เป็นไปตามกระบวนการดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิ์ต่อสู้คดีในชั้นศาลถึง 3 ศาล ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลากว่า 10 ปี
ส่วนคนที่มาอ้างว่า ตนเองรักเสือดำก็เพียงแค่เกาะกระแส ศิลปินและดาราที่ออกมา ก็หวังที่จะเกาะกระแสเรื่องนี้ เพื่อหวังผลประโยชน์เท่านั้น และเชื่อว่ากระแสในลักษณะนี้อยู่ได้ไม่นาน
นอกจากนี้ บางคนที่มาด้วยใจ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมาพ่นสีกำแพงในที่สาธารณะให้เลอะเทอะ เพราะเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งหากต้องการที่จะรณรงค์จริง ก็ควรจะไปขออนุญาตในการชุมนุม หรือจัดประชุม ไม่ใช่ไปวาดในที่ราชการ หรือเอกชน เพราะสามารถดำเนินการแจ้งความบุกรุกได้ ถ้าหากว่ามีการวาดภาพเสือดำภายในบริเวณใกล้เคียง กับที่ตั้งบริษัทของนายเปรมชัย ทางบริษัทก็สามารถแจ้งความหมิ่นประมาทได้ด้วยเช่นกัน
ที่มา : Amarin TV