พร.ต.อ.เจตจำนง นุกาศ ร้อยเวร สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 185/54 บ้านเมืองงิม หมู่ 4 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จึงรายงาน พ.ต.อ.สิทธิชัย ไกรแสผกก.สภ.บ้านดู่ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์อิ่นใจ รองผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านดู่ ให้รับทราบจึงตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ที่เกิดเหตุอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้นครึ่งที่ตั้งติดถนนสายฝั่งหมิ่น-บ้านฟาร์ม คูหาสุดท้าย พบน.ส.ภัทรดา มณีรักษ์อายุ 30 ปีรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยอาการตื่นตระหนก จากนั้น น.ส.ภัทรดา พาไปดูที่ห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพบศพนายเปรมช มณีรักษ์ อายุ 82 ปี กางเกงขาสั้นสีดำและเสื้อยืดแขนสั้นสีลายที่เปื้อนไปด้วยเลือด โดยนอนเสียชีวิตจอมกอง เลือดอยู่บนฟูกนอนภายในห้อง เมื่อตรวจดูที่ศพพบที่ลำคอถูกของมีคมปาดจนคอเกือบขาด อีกทั้งลูกตาข้างซ้ายถูกควักออกจากเบ้าตาจนห้อยรุ่งริ่งอย่างน่าสยดสยอง ที่เกิดเหตุยังพบมีดของกลางเป็นมีดทำครัวอีโต้และมีดปลายแหลมรวม 2 เล่มตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นจึงแจ้งหน่วยกู้ภัยศิริกรณ์บรรเทาสาธารณภัยไปรับศพเพื่อนำศพส่งตรวจพิสูจน์ศพที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านกาแฟตามปกติและต่อมา น.ส.ภัทรดา ได้ไปเช่าจากเพื่อนเพื่อจะปรับปรุงให้เป็นร้านอาหารบริการลูกค้า แต่ก่อนที่จะปรับปรุงร้านก็ได้ไปรับบิดาซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพาตช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้ต้องนอนอยู่กับที่นอนให้ไปอยู่ที่ห้องดังกล่าวโดยให้มารดาอยู่เฝ้าดูแลส่วนตัวเองออกไปทำธุระข้างนอน กระทั่งช่วงบ่ายได้กลับไปดูบิดาและมารดาก็พบนายเปรมนอนเสียชีวิตในสภาพนั้นแล้วดังกล่าว จึงรีบแจ้งเพื่อนบ้านและตำรวจให้ไปตรวจสอบแต่ขณะนั้นพบว่านาง นภาพรอยู่ในอาการไม่ปกติโดยเหม่อลอยและตกใจเล็กน้อย เมื่อสอบถามได้ความว่ามีประวัติป่วยด้วยอาการทางจิตมาก่อนจึงให้ น.ส.ภัทรดา ได้ดูแลอาการอย่างใกล้ชิดจากนั้น นำตัวส่ง สภ.บ้านดู่ เพื่อตรวจสอบหลักฐานอาการป่วยตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.อ.สิทธิชัย กล่าวว่าเบื้องต้นสันนิฐานว่าผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าคือภรรยาผู้ตายโดยใช้มีดเป็นอาวุธซึ่งนางนภาพรเคยมีอาการป่วยทางจิตเวช ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบ หลักฐานต่างๆ และตรวจสอบประวัติของนางนภาพรเกี่ยวกับอาการป่วยอีกครั้งเพราะเบื้อง ต้นยังอยู่ในอาการตกใจและไม่สามารถพูดจาได้ตามปกติต่อไป
จักรภัทร ข่าว/ภาพ