จากกรณีนางเยาวเรศสีพรมติ่งครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.กาฬสินธุ์ออกมาขอความเป็นธรรมหลังจากมีนักเรียนหญิงมาบอกตนเองว่าถูกคุณครูผู้ชายภายในโรงเรียนขอมีเซ็กซ์ด้วยซึ่งหลังจากครูได้รับเรื่องราวก็โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า”ฟังแล้วแทบไม่น่าเชื่อเลยเมื่อนักเรียนส่งข้อมูลมาให้…ครูขอมีอะไรกับหนูค่ะ…อยากวันไหนให้โทรมานัด…แถมขู่นักเรียน…ห้ามนำมาแจ้งครู”เพื่อเป็นการเตือนลูกศิษย์ในโรงเรียนและผู้ปกครองให้ระวังพฤติกรรมครูที่คุกคามทางเพศ
ซึ่งหลังจากที่โพสต์กลับถูกสพม.24ตั้งกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรงซึ่งหลังจากมีกระแสข่าวออกไปทางศึกษาธิการจังหวัดได้แจ้งให้สพม.24ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดใหม่และได้มีนักเรียนออกมายืนยันกับสื่อว่าคุณครูผู้ชายมีพฤติการณ์ดังกล่าวจริงตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่12มีนาคมครูเยาวเรศได้ออกมาเปิดเผยอีกว่าได้มีนักเรียนหญิงอีกหลายคนออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมดังกล่าวของคุณครูผู้ชายโดยล่าสุดนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่4ได้เขียนจดหมายมาให้ข้อมูลว่า”มาเป็นกิ๊กครูมั้ยจะให้เดือนละสองสามหมื่นหนูเลยว่าไม่เป็นค่ะแล้วครูก็ถามว่าอยู่ห้องไหนหนูชื่ออะไร…ครูถามว่าเป็นแฟนกับครูมั้ยหนูก็บอกว่าครูกับนักเรียนรักกันไม่ได้ครูบอกว่าแล้วหมอกับคนไข้แล้วทำไมรักกันได้แล้วหนูก็เดินออกมาและเรียกนักเรียนว่าที่รักบอกให้หนูเป็นเมียน้อยอาจารย์มั้ยหนูเลยยิ้มๆแล้วอาจารย์เลยบอกว่าเดี๋ยวอาจารย์ไม่รักเลย”
นอกจากนี้ยังมีนักเรียนอีกหลายคนมาให้ข้อมูลกับตนซึ่งขณะนี้ตนมั่นใจว่าข้อมูลหลักฐานเป็นความจริงและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องของตนและเด็กนักเรียนทุกคนโดยขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนสพม.24และนิติกรได้ลงพื้นที่สอบสวนข้อมูลทั้งหมดเพื่อหาข้อเท็จจริงโดยยืนยันว่าจะทำการสอบสวนทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องและจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนข้อมูลต่างๆยังปิดเป็นความลับยังไม่สามารถนำออกมาเผยแพร่ได้
ด้านนายชัยยายอดสง่าผู้อำนวยการสำนักงานป.ป.ช.จ.กาฬสินธุ์เปิดเผยว่าได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผู้บริหารโรงเรียนแห่งเดียวกันว่ามีการเก็บเงินจากผู้ปกครองนักเรียนในแต่ละปีการศึกษาคนละ2,400บาทจากนักเรียนกว่า2,000คนแต่ไม่มีใบเสร็จตราครุฑทางราชการและเป็นข้อสงสัยไม่นำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์นั้นขณะนี้ทางป.ป.ช.จ.กาฬสินธุ์ได้รับเรื่องไว้แล้วอยู่ในระหว่างตรวจรับข้อกล่าวหาว่ามีมูลน่าเชื่อถือหรือไม่มีพยานหลักฐานอะไรทั้งฝ่ายกล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาครบองค์ประกอบหรือไม่จะดำเนินการหาข้อเท็จจริงต่อไป
ด้านนายอุดมศักดิ์ดุลยประพันธ์ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ภาค4กล่าวว่าหากมีรายได้จากทางราชการโรงเรียนจะต้องออกใบราชการตราครุฑเพื่อนำเงินส่งเป็นรายได้แผ่นดินและหากโรงเรียนจะใช้เงินต้องขอตามระเบียบของทางราชการแต่ถ้าหากผู้อำนวยการคิดว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากก็นำเงินเข้าสมาคมผู้ปกครองและครูโดยออกใบเสร็จของสมาคมผู้ปกครองและครูโดยจะทำอะไรต้องดูระเบียบเป็นหลักแม้ไม่มีเจตนาทุจริตแต่ทำผิดระเบียบทางป.ป.ช.ต้องยึดระเบียบเป็นหลัก
โดยในช่วงเปิดเทอมจะมีผู้ปกครองยินดีที่จะบริจาคสิ่งต่างๆเข้าโรงเรียนต้องทำให้ถูกระเบียบของทางราชการและโปร่งใสเพื่อป้องกันการทุจริตเงินแผ่นดิน