เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อีกหนึ่งความบันเทิงที่คอหนังทุกแนวต้องการก็คือ เราอยากให้หนังมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราในตอนจบ ซึ่งหนังหลายๆ เรื่องทำออกมาได้ดีมากจนเรียกได้ว่า หักมุมจนตกเก้าอี้ กันไปตามๆ กัน !! และลิสต์ในครั้งนี้จะมาเอาใจคอหนังสยองขวัญ ที่ตอนจบหักมุมจนเงิบ สำหรับหนังแนวนี้ ก็แบ่งจุดหักมุมออกเป็น 3 ประเภท
Plot Twist เป็นหนังหักมุมที่พยายามเล่าเรื่องให้คนดูเชื่ออีกอย่างหนึ่ง แต่เกิดจุดพลิกผันในระหว่างเรื่องหรือท้ายเรื่อง ที่ทำให้หนังจบมาอีกแบบหนึ่ง
Twist Ending เป็นหนังหักมุมในฉากสำคัญท้ายเรื่อง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อเรื่องหรือทำลายความเชื่อของคนดู ที่หนังได้เล่ามาก่อนหน้านี้
Surprise Ending เป็นหนังที่สร้างความตกตะลึง ความแปลกใจในฉากสำคัญท้ายเรื่อง แต่ไม่ถือว่าเป็นจุดหักมุมของเรื่อง

มาดูกันว่ามีเรื่องไหนกันบ้าง

 

The Others (2001)
หนังเล่าเกี่ยวกับ Grace Stewart หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง พร้อมกับลูกๆอีกสองคน Anne และ Nicholas โดยวันหนึ่งมีคนแปลกหน้าสามคน มาขอสมัครงาน ตามคำกล่าวอ้างจากประกาศที่ลงในหนังสือพิมพ์ ซึ่งเธอเองก็รับพวกเขาทั้งสามคนเข้าทำงาน และนั่นก็ทำมาสู่เรื่องราวอันน่าพิศวง

 

The Sixth Sense (1999)
หนังเล่าเกี่ยวกับ Dr. Malcolm Crowe ผู้เป็นจิตแพทย์ ที่คืนหนึ่งได้มีคนเข้ามาบุกรุกบ้านของเขา ซึ่งนั่นก็เป็นอดีตคนไข้ของเขา และคนไข้รายนั้นได้ยิงปืนใส่มาที่ตัวเขาหนึ่งนัด แต่เรื่องราวก็เหมือนจะไม่ร้ายแรงมากนัก จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งปีเขาก็ได้พบกับ Cole Sear เด็กชายวัยเก้าปี ที่มีอะไรหลายอย่างแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ

 

The Mist (2007)
สังคมอเมริกันที่ตกอยู่ภายใต้ความหวาดวิตก ได้ถูกจำลองเป็นเหตุการณ์ในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ที่มีผู้คนต่างหลบภัยอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่มีใครที่จะกล้าออกไปเผชิญกับความน่ากลัวที่ซุกซ่อนมากับกลุ่มก้อนหมอกปริศนา โดยหนังได้ใช้ความกลัวเป็นตัวปลุกสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ และได้แสดงบทสรุปที่น่าสนใจของกลุ่มคนสองประเภทคือ พวกที่ยังมีสติ พยายามหาคำอธิบายและการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอีกประเภทคือ พวกคนที่ขาดสติ พยายามผูกศรัทธาและความเชื่อต่างๆเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

 

Incendies (2010)
หนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าจดจำมากที่สุดของ Denis Villeneuve เดินเรื่องภายใต้สภาวะตึงเครียดโดยใช้บริบทของสงครามเพื่ออธิบายอุดมการณ์ของตัวละคร และที่สำคัญหนักแน่นด้วยโทนลึกลับ ความซ่อนเร้นเกี่ยวกับภูมิหลังของตัวละครที่เต็มไปด้วยปริศนามากมาย  และนำมาซึ่งความจริงอันน่าสะพรึง ที่ซ่อนไว้ซึ่งความเจ็บปวดและความสวยงาม กับเรื่องราวของสองพี่น้องฝาแฝดที่ต้องทำตามพินัยกรรมของผู้เป็นแม่ ในการนำจดหมายสองฉบับไปให้พ่อและพี่ชาย ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

 

Oldboy (2003)
บางทีนี่อาจเป็นหนังเกาหลีที่คนไทยรู้จักกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ประการแรกด้วยพล็อตอันโดดเด่น ทำให้เกิดการความรู้สึกสนใจและมีการพูดถึงบอกต่อกัน ว่าด้วยชายคนหนึ่งที่พยายามสืบหาผู้อยู่เบื้องหลัง ที่จับตัวเขาไปขังไว้ในห้องเล็กๆเป็นระยะเวลานานถึง 15 ปี ประการที่สอง เทคนิคการถ่ายทำที่ยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยชั้นเชิงและลูกเล่นมากมาย ฉากลองเทคที่ผนวกใช้ในฉากต่อสู้ได้อย่างสร้างสรรค์ และประการที่สาม การหักมุมที่ขยี้ความรู้สึกของคนดูให้ดำดิ่งและหดหู่ได้อย่างสุดขั้ว

 

The Skeleton Key (2005)
ขอยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน underrated horror ของยุคนี้ กับเรื่องราวของสาวพยาบาลที่ต้องดูแลชายชราที่เป็นอัมพาตในคฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่ง โดยจะเห็นเลยว่าการเขียนบทค่อนข้างดูฉลาด ตั้งแต่การวางปมในจิตใจตัวละคร เมื่อตัวเอกที่เป็นหญิงสาวมีปมค้างคาเกี่ยวกับพ่อ มันกลายเป็นฐานรองรับให้การกระทำของเธอให้ดูน่าเชื่อถือ ว่าทำไมเธอถึงต้องยึดมั่นในงานๆนี้ อีกทั้งยังใช้เรื่องความเชื่อและไสยศาสตร์ มาเป็นตัวหลอกล่อ สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และสามารถนำไปสู่การจบที่ชาญฉลาดได้