เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีสำหรับนักร้องดังในอดีตหนึ่งในสมาชิกวง บาซู ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นวงหนึ่งที่โด่งดังเป็นอย่างมากในอดีต สำหรับ “สุรเดช ทับทิมใส” หรือ “โจอี้ บาซู” ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักร้องที่มากความสามารถอีกคนหนึ่ง วันนี้เราจะมาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุ ที่ทำให้นักร้องหนุ่มคนนี้หันไปพึ่งยาเสพติด จากที่ “โจอี้ บาซู” เคยขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่สุดท้ายก็ต้องตกลงมาในจุดที่ต่ำที่สุดเพราะ ยาเสพติด วันนี้เราจะมาสรุปเหตุผลที่ทำให้ “โจอี้ บาซู” หรือคนทั่วไป ต้องติดยาเสพติด
1. การมีปัญหากับพ่อแม่ คิดว่าพ่อแม่ไม่รัก เช่นนักร้องดังคนหนึ่ง อักษร ส.โดดที่สูงตาย เพราะขอเงินไปลงทุนทำธุระกิจแล้วพ่อไม่ให้ คิดว่าพ่อไม่รัก จึงเกิดอารมณ์ประชดหันเข้าพึ่งยาเสพติดจนปราสาทหลอนและเกิดโศกนาฏกรรมกับดาราอีกหลายคน เรื่องเศร้าแบบนี้จะไม่เกิดถ้าไม่หันไปพึ่งยาเสติด
2. ทะเลาะกับแฟน คิดว่าแฟนไม่รักเลยหันไปพึ่งยา ซึ่งเป็นการประชดเพื่อให้คนที่รักหันมาสนใจ โดยที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่า จะตกเป็นทาสยาเสพติดโดยไม่รู้ตัว นี่ก็เป็นอีกสาเหตุ
3. มีความเชื่อตามรุ่นพี่ว่าเมื่อเสพแล้วจะเล่นดนตรีได้ดีมาก เพราะจะเกิดจินตนาการสูง ซึ่งตอนแรกอาจจะทำให้ตัวเรามีอาการเหมือนทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องทำให้เราพึ่งพายาเสพติดไปตลอด จึงทำให้เราต้องใช้มันทุกครั้งที่เล่นดนตรี หรือจะทำอะไรก็ตาม เราจึงไม่ควรที่จะพึ่งมันเพื่อทำอะไรสักอย่าง
4. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีผู้ติดยารวมอยู่ด้วย จึงถูกชักชวนเป็นธรรมดา อย่างเช่นการอยู่ในชุมชน ที่อาจจะโตมาพร้อมกับเห็นภาพผู้คนที่ทำผิดอยู่เป็นประจำ จึงทำให้คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งประเด็นนี้ต้องอาศัยคนในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ หรือแฟน คอยตักเตือนตั้งแต่เป็นเยาชนว่า สิ่งไหนควรทำสิ่งไหนไม่ควรทำ
5. เกิดจากกำลังอยู่ในช่วงขาลง ไม่มีงาน จึงกันไปเสพยาเพื่อให้ลืมเรื่องทุกข์ กรณีนี้ถือว่ามีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นกับในกลุ่มคนที่เป็นผู้ใหญ่พอสมควรแล้ว ที่หันไปพึ่งยาเพื่อคลายความเครียด อย่างกรณีนี้ต้องอาศัยคนในครอบครัวเช่นกัน ที่จะคอเป็นหูเป็นตา และให้กำลังใจกันในวันที่หมดหวัง หรือมรสุมรุมเร้า ส่วนตัวคนที่จะหันไปพึ่งยาเสพติด ก็ต้องคำนึงถึงคนในครอบครัวด้วยเช่นกัน เช่น ภรรยา ลูก หรือคนที่เราต้องดูแล ไปตลอด
6. เกิดจากการถูกหลอกลวง เพราะปัจจุบันนี้มีผู้ขายสินค้าประเภทอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มบางรายใช้สิ่งเสพย์ติดผสมลงในสินค้าที่ขาย เพื่อให้ผู้ซื้อสินค้านั้นไปรับประทานเกิดการติด และต้องกลับมารับประทานอาหารร้านเดิมบ่อยๆ อย่างเช่น ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่บางร้านอาจจะมีส่วนผสมของยาเสพติด นี่ก็ถือว่าทำให้เราติดยาเสพติดโดยไม่รู้ตัวอีกเช่นกัน
7. จากอาการป่วยทางกายเกิดขึ้นเพราะสาเหตุต่าง ๆ เช่นได้รับบาดเจ็บรุนแรง เป็นแผลเรื้อรัง มีความเจ็บปวดอยู่เป็นประจำ เป็นโรคประจำตัวบางอย่าง เป็นต้น ทำให้ได้รับทุกข์ทรมานมาก หรือ เป็นประจำ จึงพยายามแสวงหาวิธีที่จะช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากความทุกข์ทรมานนั้นซึ่งวิธีหนึ่งที่ทำได้ง่ายคือ ไช่ยาเสพติดเพื่อบรรเทาการเจ็บปวด ซึ่งการทำอย่างนี้ ก็ช่วยให้หายเจ็บปวดได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น จึงทำให้ต้องใช้ยาเสพติดไปตลอด
8. จากการถูกหลอกลวง ยาเสพติดมีรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ผู้ถูกหลอกลวงไม่ทราบว่า สิ่งที่ ตนได้กินเข้าไปนั้น เป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรง คิดว่าเป็นยาธรรมดาไม่มีพิษร้ายแรง พอได้เห็นว่าพิษภัยไม่ร้ายแรง สุดท้ายอะไรตามที่ผู้หลอกลวงแนะนำผลสุดท้าย กลายเป็นผู้ติดยาเสพติดไป
9. เกิดจากความคึกคะนอง คนบางคนมีความคึกคะนอง ชอบพูดอวดเก่งเป็นนิสัย หรือเกิดจากการยุยงจากกลุ่มเพื่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า เสียไม่ได้ จึงทำให้หลงเข้าไปในวังวนของ ยาเสพติด โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะวัยรุ่นมักจะมีนิสัยดังกล่าว คนพวกนี้อาจแสดงความเก่งกล้าของตน ในกลุ่มเพื่อนโดยการแสดงการใช้สิ่งเสพย์ติดชนิดต่าง ๆ
10. สาเหตุสุดท้ายเกิดจากตัวเองล้วนๆ จากอยากทดลอง เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นซึ่งเป็นนิสัยของคนโดยทั่วไป และโดยที่ไม่คิดว่าตนจะติดสิ่งเสพย์ติดนี้ได้ จึงไปทำการทดลองใช้สิ่งเสพย์ติดนั้น ในการเสพใช้ครั้งแรกๆ อาจมีความรู้สึกดีหรือไม่ดีก็ตาม แต่ถ้าได้เสพอีกครั้งรับรองได้เลยว่าคุณจะติดมันในทันที และยากที่จะกลับมาเป็นคนเดิม
อย่างไรก็ตามจากกรณีของ “โจอี้ บาซู” ถ้าเจ้าตัวสำนึกผิด แล้วไม่คิดที่จะกลับไปพึ่งยาเสพติดแล้ว คนไก้ล้ตัว หรือสังคมก็ควรจะให้อภัยและให้โอกาศ เพื่อไม่เปิดช่องทางให้เขาหันกลับไปพึ่งยาเสพติดอีกตลอดไป
