เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อันตรายจากการทานหวาน

1. เกิดความไม่สมดุลของเลือด น้ำตาลสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเราทานน้ำตาลเข้าไปเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าน้ำตาลนั้นจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม เช่น น้ำตาลทราย น้ำตาลในผลไม้ น้ำตาลในน้ำผึ้ง น้ำตาลในขนมหวาน จะทำเกิดความไม่สมดุลในเลือด ทำให้เลือดมีความเป็นกรดมากขึ้น ร่างกายจึงต้องปรับสมดุลโดยการดึงแร่ธาตุที่สะสมในกระดูกมาใช้ เป็นเหตุให้เกิด โรคกระดูกเปราะ ฟันผุ ได้

2. เกิดการสะสมไขมัน น้ำตาลที่มีมากเกินความจำเป็นในร่างกายจะถูกเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นไขมัน และนำไปสะสมไว้ในส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น บริเวณสะโพก ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ต่างๆ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความอ้วนเฉพาะส่วน หรืออ้วนทั้งตัวได้ค่ะ นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดไขมันสะสมในอวัยวะภายใน เส้นเลือด หัวใจ ตับ ไต ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันอุดตันเส้นเลือดได้อีกด้วยค่ะ

3. เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมาคมโรคเบาหวานอเมริกาได้เปิดเผยว่าน้ำตาลไม่ใช่ทำให้เป็นโรคเบาหวานอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงกับโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย โดยพบว่าโรคหัวใจกลับเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ในผู้ป่วยเบาหวานระยะที่ 2 ซึ่งคิดเป็น 65% ของอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งหมดที่เสียชีวิต

4. ทำให้คุณกินไม่หยุดน้ำตาลทำให้คุณรู้สึกหิวได้ มีการวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการรับประทานน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้คุณรู้สึกหิวมากขึ้นและไม่รู้สึกอิ่ม ซึ่งจะทำให้น้ำหนักขึ้นและเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และทำให้ฮอร์โมนเลปติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมาเมื่อรู้สึกอิ่ม ลดน้อยลงอีกด้วย

5. ทำให้คุณอยากกินของหวานมากขึ้นการที่คุณหยิบของหวานขึ้นมารับประทานทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนล้า เพราะคิดว่ามันช่วยเพิ่มพลังได้ นั่นเป็นวิธีที่ผิดมหันต์เลยค่ะ เพราะน้ำตาลนั้นจะสามารถทำให้มีแรงเพิ่มขึ้นได้เพียง 30 นาทีเท่านั้นและยังจะทำให้คุณรู้สึกต้องการน้ำตาลเพิ่มขึ้น นอกจ่ากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าน้ำตาลยังทำให้เกิดการหลั่งของสารเซโรโทนินมากขึ้นซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนแทนที่จะมีแรงมากด้วยค่ะ

6. ทำให้ผิวพรรณเหี่ยวย่นน้ำตาลเมื่อเข้าสู่กระแสเลือดแล้วก็จะไปเกาะหรือไปจับกับเส้นใยโปรตีนในร่างกาย แล้วเปลี่ยนเป็นโมเลกุลใหม่ที่ชื่อ AGEs ซึ่งโมเลกุล AGEs นี้จะไปทำลายโปรตีนที่ชื่อว่าคอลลาเจนและอิลาสติกซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวกระชับและมีความยืดหยุ่น เมื่อโปรตีนเหล่านี้ถูกทำลายไปก็จะทำให้ผิวเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อยก่อนวัยค่ะ

เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมในร่างกายมากเกินไป ควรเลือกทานอาหารกลุ่มนี้ในมื้อเช้าและกลางวัน เพราะระหว่างวันเรามักจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะถูกเผาผลาญ แทนการสะสมในร่างกาย

ส่วนการจะลดเสี่ยงเบาหวานก็สามารถทำได้โดย

1.ไม่ควรรับประทานน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา และแป้ง (ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เค้ก ฯลฯ) ไม่เกิน 8–12 ทัพพี

2.ควรจดบันทึกปริมาณพลังงานที่ได้รับ/วัน หรือนับการรับประทานอาหารกลุ่มแป้ง น้ำตาล และไขมัน เช่น มื้อกลางวันทานสัปปะรดไปแล้ว มื้อเย็นก็ไม่ควรทานอาหารที่มีน้ำตาลแฝงอยู่ เช่น แกงเขียวหวาน ควรเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีน้ำตาลแทน เช่น ปลาย่างทานกับผักสด

3.อย่าซื้อขนมหวานที่ชอบติดบ้าน เวลาเบื่อหรือนั่งดูทีวีเรามักจะรับประทานขนมได้มากโดยไม่รู้ตัว ถ้าเบื่อควรเลือกทานผลไม้ที่ไม่หวานแทน เช่น ฝรั่ง, มันแกว ฯลฯ

4.รับประทานให้ช้าลง เพราะร่างกายจะรับรู้ถึงสัญญาณความอิ่มหลังรับประทานอาหารประมาณ 15–20 นาที ถ้าเรารับประทานช้าลงเราก็จะรู้สึกอิ่มโดยที่ไม่ได้รับประทานเกินความต้องการของร่างกาย

5.เคี้ยวให้นานขึ้น ยิ่งเคี้ยวนานเราก็จะทานช้าลง และอิ่มเร็วขึ้น

6.ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง เพื่อลดปริมาณไขมันในร่างกายเพื่อช่วยให้อินซูลินทำงานได้ตามปกติ

by TVPOOL ONLINE

TV Pool Online