เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

มะเขือเปราะ สรรพคุณล้นหลาม ตามตำราแพทย์แผนไทย

ผล : ผลมะเขือเปราะช่วยลดไข้ ลดการอักเสบ ลดความดันเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบ กระตุ้นการเผาผลาญกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยขับพยาธิ รักษาเบาหวาน ต้านมะเร็ง และช่วยบำรุงหัวใจได้
ใบ : นำมาขยำแล้วพอกบริเวณแผล จะช่วยห้ามเลือดและรักษาแผลให้หายไวขึ้น และหากนำใบสดมาเคี้ยวจะช่วยบรรเทาอาการเหงือกอักเสบได้ นอกจากนี้การนำใบมะเขือเปราะมาต้มแล้วดื่มยังช่วยแก้อาการร้อนในและช่วยขับปัสสาวะได้ดี แถมยังนำมาต้มอาบแก้บรรเทาอาการคันตามผิวหนังได้ด้วย

ราก : นำรากมะเขือเปราะมาต้มดื่มช่วยขับปัสสาวะ บรรเทาอาการไอ แก้อาการอักเสบในลำคอ และแก้โรคหอบหืดได้ หรือหากนำมาเคี้ยวยังช่วยบรรเทาอาการเหงือกบวม เหงือกอักเสบ และลดอาการปวดฟันได้อีกด้วย

 

ประโยชน์ของมะเขือเปราะ ของดีที่ควรมีติดบ้าน

รักษาเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด

มะเขือเปราะได้ชื่อว่าเป็นผักพื้นบ้านที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดมานานแล้ว เพราะมีใยอาหารสูง และเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดที่ละลายน้ำได้ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่า มะเขือเปราะออกฤทธิ์คล้ายอินซูลิน โดยช่วยเสริมการใช้งานกลูโคสอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มะเขือเปราะจึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนป่วยเบาหวานหรือคนที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

 สอดคล้องกับงานวิจัยในแคว้นโอริสสา ประเทศอินเดีย ที่ได้ทำการทดลองใช้สารสกัดน้ำของผลมะเขือเปราะเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นเบาหวาน โดยพบว่า สารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีเทียบเท่ากับการใช้ยาไกลเบนคลาไมด์ (glibenclamide) ที่ใช้สำหรับรักษาโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 เลยค่ะ ดังนั้นคนอินเดียจึงมักนำน้ำต้มผลมะเขือเปราะมาดื่มเพื่อรักษาโรคเบาหวาน

ลดไข้ แก้ไอ

มะเขือเปราะมีฤทธิ์ที่ช่วยลดไข้ ลดอาการอักเสบ แก้พิษร้อนในร่างกาย แถมช่วยขับลมชื้นที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ในช่วงหน้าฝนได้ ดังนั้นหากไม่สบาย เราขอแนะนำให้ทานมะเขือเปราะ จะได้ช่วยให้หายไวขึ้น หรือถ้าใครมีอาการไอด้วย ทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียก็จะนำมะเขือเปราะมาปรุงเป็นยาแก้ไอ โดยนำผลมะเขือเปราะไปตากแห้งแล้วบดเป็นผง นำไปผสมกับน้ำผึ้งจิบดื่มเวลาไอค่ะ

ตัวช่วยลดน้ำหนัก

มะเขือเกือบทุกชนิด รวมถึงมะเขือเปราะถือเป็นอาหารที่ดีต่อคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะเป็นผักที่มีปริมาณแคลอรีไม่มาก แถมยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยให้เราอิ่มนาน รู้สึกอยากอาหารน้อยลง จึงเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้ทางอ้อมค่ะ

ลดคอเลสเตอรอลก็ได้

มีการวิจัยพบว่ามะเขือเปราะสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในร่างกายลงได้ นอกจากนี้สารนาโซลินก็ยังทำงานร่วมกันกับไฟโตนิวเทรียนท์ช่วยไม่ให้มีไขมันเกาะตามผนังของเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้สะดวกขึ้น

เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ป้องกันท้องผูก

ผลของมะเขือเปราะจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราดีขึ้น ห่างไกลจากอาการท้องผูกได้ เพราะมะเขือเปราะมีไฟเบอร์อยู่เป็นจำนวนมาก จึงช่วยกระตุ้นให้ท้องและลำไส้บีบตัว ดูดซึมสารอาหารและขับถ่ายออกไปได้ดี นอกจากนี้ยังมะเขือเปราะยังเป็นอัลคาไลน์ธรรมชาติที่ช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารของเราได้ด้วยนะคะ

บำรุงกระดูกให้แข็งแรง

มะเขือเปราะมีสารอาหารจำพวกแคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็กอยู่ค่อนข้างสูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกได้เป็นอย่างดี การทานมะเขือเปราะเป็นประจำจึงช่วยลดความเสี่ยงกระดูกพรุน และกระดูกเสื่อมลงได้

ป้องกันความจำเสื่อม

ในมะเขือเปราะมีไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันไม่ให้เยื่อหุ้มเซลล์ถูกทำลาย และช่วยให้การส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์ต่าง ๆ ไหลลื่นขึ้น จึงช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมได้ แต่สารไฟโตนิวเทรียนท์ที่ว่านี้ จะมีอยู่แค่ในเปลือกของมะเขือเปราะเท่านั้น ดังนั้นเวลาทานมะเขือเปราะ อย่าปอกเปลือกออกนะคะ !

บำรุงผิว

สาว ๆ คนไหนที่อยากถนอมผิวให้ดูอ่อนเยาว์อยู่ตลอด ต้องทานมะเขือเปราะบ่อย ๆ แล้วค่ะ เพราะในมะเขือเปราะมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิว แถมยังอุดมไปด้วยน้ำและวิตามินดี ๆ เช่น วิตามินอี ที่ทำให้ผิวของสาว ๆ กระจ่างใส นุ่ม และชุ่มชื่น

บำรุงผม

มะเขือเปราะก็เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางามได้ค่ะ เพราะในมะเขือเปราะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ค่อนข้างมาก จึงช่วยบำรุงเส้นผมไม่ให้แห้งกระด้าง หรือหากต้องการบำรุงรากผมให้แข็งแรง ผมไม่หลุดร่วงง่าย ๆ ก็ลองนำมะเขือเปราะมาหั่นเป็นซีก ๆ แล้วถูบริเวณหนังศีรษะ ทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออกด้วยแชมพูแบบอ่อน ๆ น้ำจากมะเขือเปราะที่ซึมเข้าไปก็จะช่วยให้รากผมแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังมีเอนไซม์ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์บนหนังศีรษะ ทำให้ผมงอกและยาวเร็วขึ้นได้ด้วยนะ

ส่วนใครที่อยากลดอาการคันศีรษะหรือขจัดรังแค ก็มีสูตรจากมะเขือเปราะมาช่วยได้ด้วยเหมือนกัน โดยนำมะเขือเปราะ 1 ลูก แตงกวาและอะโวคาโดอย่างละครึ่งลูก มาผสมกับครีมเปรี้ยวประมาณ 1/3 แล้วนำไปพอกหนังศีรษะครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยล้างออกด้วยยาสระผมและน้ำอุ่น ก็จะช่วยบำรุงให้หนังศีรษะของเรามีสุขภาพดี ไร้อาการคันหรือรังแคมากวนใจเลยล่ะค่ะ

ควบคุมความดันโลหิต

ทุกวันนี้ ใคร ๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ง่ายจากไลฟ์สไตล์ที่ขาดการออกกำลังกาย และชอบทานอาหารเค็ม แต่ถ้าเปลี่ยนจากการทานอาหารเค็ม ๆ มาทานมะเขือเปราะ ไบโอฟลาโวนอยด์ที่มีอยู่ในมะเขือเปราะก็จะไปลดระดับความดันโลหิต พร้อมกับควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ค่ะ

ป้องกันโลหิตจาง

โรคโลหิตจางหรือโรคซีด จะทำให้มีอาการมึนงง ปวดหัว อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และใจสั่น ซึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อยมาจากการขาดธาตุเหล็ก อันเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง จึงทำให้การผลิตเม็ดเลือดแดงรวมทั้งปริมาณฮีโมโกลบินน้อยลง ดังนั้นการจะป้องกันโรคโลหิตจางได้ ก็ต้องทานอาหารที่มีธาตุเหล็กและอาหารที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในปริมาณมาก ๆ ซึ่งมะเขือเปราะเป็นสารอาหารที่มีธาตุเหล็กอยู่พอสมควรค่ะ อีกทั้งยังมีทองแดงที่สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงอยู่สูง โดยสารอาหารทั้งสองชนิดจะทำงานร่วมกันช่วยให้เม็ดเลือดแดงกระจายตัวได้อย่างเต็มที่ และช่วยกระตุ้นการสร้างฮีโมโกลบินด้วย

บำรุงหัวใจ

งานวิจัยนานาชาติระหว่างปี พ.ศ. 2510-2538 พบว่า ผลมะเขือเปราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และช่วยควบคุมความดันเลือดให้คงที่ ซึ่งทั้งสองถือเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้ ทำให้การทานมะเขือเปราะช่วยบำรุงและลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงได้นั่นเองค่ะ

บำรุงตับ

การทานมะเขือเปราะจะช่วยให้ตับของเราทำงานได้ดีขึ้น เพราะมะเขือเปราะจะไปเพิ่มการผลิตน้ำดีในตับให้ออกมาย่อยไขมันได้มากขึ้น เป็นการป้องกันภาวะตับวายได้อีกทาง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ประเทศอินเดียใช้สารสกัดน้ำจากผลมะเขือเปราะกับหนูทดลอง แล้วพบว่า สารนั้นมีผลเชิงบวกต่อการทำงานของตับอ่อน โดยที่ไม่มีพิษต่อสัตว์ทดลองเลยด้วย

ลดความเสี่ยงมะเร็ง

มีงานวิจัยพบว่าในมะเขือเปราะมีสารไกลโคอัลคาลอยด์โซลามาร์จีน โซลาโซนีน และอัลคาลอยด์โซลาโซดีนที่ปราศจากโมเลกุลน้ำตาล ซึ่งการทดสอบฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งของสารเหล่านี้พบว่า สารทุกตัวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการก่อของเซลล์มะเร็งตับและลำไส้ใหญ่ อีกทั้งในมะเขือเปราะยังมีกรดโคโรจินิกที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แถมยังอุดมไปด้วยสารฟีนอลและวิตามินซี ที่ช่วยให้ภูมิต้านทานแข็งแรง กระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาวให้มากำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงบอกได้ว่า มะเขือเปราะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้พอสมควรเลยค่ะ

โทษของมะเขือเปราะ ทานเยอะไป ก็อันตรายได้นะ

แม้มะเขือเปราะจะมีประโยชน์อยู่เพียบ แต่หากทานในปริมาณมากหรือทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้มีอาการปวดขาได้เหมือนกัน เพราะในมะเขือเปราะมีสารโซลานิน ซึ่งเป็นสารที่ถ้าร่างกายเราสะสมไว้หลาย ๆ วัน จะไปรวมตัวกับไขมันชนิดไม่ดี แล้วเกาะอยู่ตามข้อต่อ ทำให้เราปวดขา ปวดข้อ หรือเป็นตะคริวได้ค่ะ

TV Pool Online