เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ฮัลโลลล !! ทุกคนรู้หรือไม่ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะแม้แต่ท่านอนก็สามารถที่จะสื่ออะไรหลายๆ อย่างออกมาได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว เหมือนอย่างที่ Corrine Sweet  นักจิตวิทยาด้านความสัมพันธ์เคยกล่าวไว้ว่า “สภาวะจิตของคนเรานั้น จะมีผลต่อท่าที่เรานอนและท่านอนของคู่สามีภรรยาที่นอนด้วยกัน ฉะนั้นใครเริ่มรู้สึกว่าท่านอนของภรรยาหรือสามีตัวเองเปลี่ยนไป รีบหาสาเหตุแก้ไขแล้วจัดการคืนดีกันตั้งแต่บนเตียง ความรักจะได้กลับมาสดใสมุ้งมิ้ง ดีต่อใจเหมือนดังเช่นก่อนแต่งงานอีกครั้ง  จะเป็นยังไงนั้นไปดูกันเลยยยย

1. The Romantice

ท่าที่ผู้หญิงนอนเกย หน้าซบอยู่บนอกของสามี ท่านี้แสดงถึงความสัมพันธ์ที่หวานชื่น ระดับความหวานจะอยู่ที่ 99.99% แต่พบได้เพียงแค่ 4% เท่านั้นที่คู่แต่งงานจะนอนกอดกันแบบนี้ทุกคืน เพราะปกติแล้ว ท่านี้จะเป็นท่าของคู่รักที่เพิ่งรักกัน หรือไม่ก็เป็นสามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ แต่ถ้าคู่ไหนรักกันมานานแล้วยังนอนกอดกันในท่านี้อยู่ทุกคืน บอกเลยว่าคู่ของคุณอยู่ในโหมดที่น่าอิจฉา เป็นรักที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความเชื่อใจ

 
The Romantice : ท่าที่ผู้หญิงนอนเกย หน้าซออยู่บนอกของสามี

2. Spooning

ท่านี้คู่รักจะหันหน้าไปทางเดียวกัน ฝ่ายสามีโอบกอดภรรยาไว้ จากผลการวิจัย ท่า Spoon เป็นท่านอนของคู่รักที่สวีทมากที่สุดในบรรดาท่านอนของคู่รักที่แต่งงานกัน พบมากถึง 18 % เพราะนอกจากจะเป็นท่าที่ฝ่ายชายจะแสดงถึงความเป็นผู้นำ และปกป้องคนรักแล้ว ท่านี้ยังสื่อถึงเซ็กส์ที่ค่อนข้างมาก และต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคงเหนียวแน่น ถ้าสามีกอดคุณแบบนี้ เขารักและหวงคุณมากเลยล่ะ

Spooning : คู่รักจะหันหน้าไปทางเดียวกัน ฝ่ายสามีโอบกอดภรรยาไว้

3. The Lovers

ท่าหันหน้านอนกอดกัน ท่านี้คู่รักจะนอนหันหน้าเข้าหากัน ขาและแขนเกี่ยวกันตลอดทั้งคืน กับ ท่าแขกขาประสานกันอยู่สักระยะหนึ่งก่อนที่จะแยกออกมาอยู่ในท่าที่สบาย ตามหลักที่ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ ท่าที่เกี่ยวกันทั้งคืนจะเป็นกับคู่แต่งงานใหม่ ซึ่งมีแค่ 2 % เท่านั้น แสดงถึงความโหยหาที่ไม่อยากห่างกันเลยสักวินาทีเดียว แต่ถ้ารักกันมานาน แขกขาประสานกันอยู่สักระยะหนึ่งก่อนที่จะแยกออกมาอยู่ในท่าที่สบายก็ไม่แปลกอะไร เพราะยังไงท่านี้ก็แสดงถึงความรัก ความใกล้ชิด และกิจกรรมทางเพศ ที่คู่รักมีต่อกันมากนั้นเอง

 
The Lovers : ท่าหันหน้าเข้าหากัน นอนกอดกัน

4. Pillow talk

ท่า Pillow talk  คู่แต่งงานจะนอนหันหน้าเข้าหากัน สัก 7 % ได้ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่โรแมนติกมาก ระดับความสัมพันธ์จะอยู่ที่80 % คือไม่ได้หวานมากแต่ก็อยู่ห่างสายตาไม่ได้ เป็นท่านอนที่ต้องการโฟกัสแค่คนคนเดียว พึงพอใจที่จะใกล้ชิดกัน มองตากัน พูดคุยกันก่อนนอน


Pillow talk : ท่านอนหันหน้าเข้าหากัน

5. Cherish

ท่านอนหันหลังชนกัน แขนขาไม่ได้สัมผัสกัน ท่านี้ก็เป็นอีกท่าที่คู่รักนิยมกันมากถึง 18 % ซึ่งแม้ว่าท่านี้จะดูไม่หวาน แต่ก็เป็นท่าที่ทำให้คู่รักรู้สึกสบายใจในความสัมพันธ์ และผ่อนคลายเวลาอยู่ด้วยกัน ถึงจะหันหลังแต่ยังอยากสัมผัสใกล้ชิดกันอยู่ไม่ยอมห่าง


Cherish : ท่านอนหันหลังชนกัน

6. Liberty

มาถึงท่าสุดท้าย ท่า Liberty ท่านี้ถูกเรียกว่า ‘ท่านอนอิสระ’ คู่รักนอนหันหลังให้กันอย่างอิสระโดยไม่มีการสัมผัสกัน เป็นท่าที่คู่รักนิยมมากถึง 28 % เชียวนะ ก็ถึงจะเห็นว่าที่คู่รักเขาดูเหินห่าง นอนหันหลังให้กันแบบนี้ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าความรักของทั้งคู่กำลังจะจืดจางนะคะ เพราะท่านอนที่ดูเฉยชาไม่ใกล้ชิด ก็ไม่ได้แปลว่าทั้งคู่ไม่ได้รักกันเสมอไป ในทางกลับกัน ท่านี้กับหมายถึงการให้เกียรติ เป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่ต่างก็รู้จักนิสัยกันเป็นอย่างดี เป็นความผูกพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างให้อิสระต่อกัน


Liberty : ท่านอนอิสระ

นอกจากนี้ Corrine Sweet  ยังกล่าวด้วยว่า “คู่สามีภรรยาที่นอนด้วยกันในท่าที่ตนเองถนัดตั้งแต่เริ่มแรก หากลักษณะการนอนเปลี่ยนไป นี่ก็อาจสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตคู่ และอีกฝ่ายจะเริ่มสงสัยและไม่สบายใจได้เหมือนกัน”  แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้เสมอไปนะคะ เพราะเราไม่รู้ตัวหรอกเวลาเรานอนหลับ ท่านอนเราเป็นอย่างไร บางคนอาจจะนอนดิ้นก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเอาท่านอนมาตัดสินร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าความสัมพันธ์ของคุณกำลังเปลี่ยนไป แต่ให้เปิดใจและพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมา จะเป็นวิธีรักษาความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ทู่กวิธีและยืนยาวที่สุด