กล้วย ที่นิยมรับประทานกันในบ้านเรานั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหักมุก เป็นต้น แต่สำหรับต่างชาติแล้วกล้วยที่นิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกล้วยหอม เนื่องจากกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าพูดถึงเรื่องประโยชน์แล้วมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุชัดเจนว่าการรับประทานกล้วยแค่ 2 ลูกจะช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกายได้เทียบเท่ากับการออกกำลังกายถึง 90 นาทีเลยทีเดียว ! เพราะกล้วยอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติรวมถึง 3 ชนิดเลย นั่นก็คือ ซูโครส กลูโคส และฟรุกโทส ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายนั่นเอง
วันนี้ทีวีพูลมีสูตรขนมอร่อยๆ ที่ทำกินง่าย ทำขายก็รวยมาฝากกัน นั่นคือ “คัพเค้กกล้วยหอม” ไปเริ่มทำกันเลยค่าาาา
ส่วนผสม
ส่วนที่ 1
แป้งสาลีบัวแดง 180 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 180 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ส่วนที่ 2
น้ำมันพืช 170 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 0)
ส่วนที่ 3
กลิ่นวานิลลาหรือกลิ่นกล้วยหอม 1 ช้อนชา
กล้วยหอมบด 200 กรัม
นมสด (จืด) 1000 กรัม
น้ำมะนาว 1เสี้ยว
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่าง ไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน
2. วางกระทงกระดาษหรือกระทงอลูมินัมฟอล์ยลงในพิมพ์อลูมิเนียมที่ขนาดเหมาะสมกัน แล้วเรียงไว้ในถาด
3. แป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา ร่อนรวมกัน 2 ครั้ง ใส่ชามผสม
4. น้ำตาล ใส่เกลือ เทลงในของแห้ง ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน พักส่วนนี้ไว้
5. ปอกกล้วยหอมแล้วหั่นเป็นชิ้นย่อม ๆ ใส่ชามผสมใบเล็ก
6. เทโยเกิร์ตและนมสดลงไป ใช้ที่บดกล้วยบดให้ละเอียดและเข้ากัน
7. เติมกลิ่นกล้วยหอมหรือกลิ่นวานิลลาลงในส่วนผสมกล้วยบด คนให้เข้ากัน พักส่วนนี้ไว้
8. น้ำมันพืช และไข่ไก่ 2 ฟอง ใส่ชาม
9. คนด้วยส้อมให้น้ำมันพืชและไข่เข้ากันดี
10. เทส่วนของไข่และน้ำมันพืชลงในของแห้ง
11. คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน
12. เทส่วนของกล้วยที่บดไว้ลงไป โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง
13. ใส่ครั้งแรกลงไปแล้วคนด้วยตะกร้อมือพอเข้ากัน อาจจะยังไม่เข้ากันดี ไม่เป็นไรค่ะ
14. ใส่กล้วยบดส่วนที่เหลือลงไป คนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันดี
15. ตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ให้เกือบเต็มถ้วย เหลือพื้นที่ขอบถ้วยไว้ 2-3 มิลลิเมตร
16. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 200-210 องศาเซลเซียส ไฟบนและล่างไม่เปิดพัดลมกระจายความร้อน 10 นาที
17. ครบ 10 นาทีแล้ว ลดอุณหภูมิของเตาอบลงเหลือ 180 องศาเซลเซียส ยังคงไม่เปิดพัดลม อบต่อจนเค้กสุกแล้วนำออกจากเตา พักไว้บนตะแกรง 5 นาที