เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีที่เรียกได้ว่าดังที่สุดในโซเชียลเลยก็ว่าได้ ที่มีคนกลุ่มหนึ่งแสดงกิริยาอาการไม่พอใจ ด่าทอ เจ้าหน้าที่ ซึ่งปรากฏเป็นคลิปวิดีโออย่างแพร่หลายในสื่อออนไลน์ ความวุ่นวายเปิดฉากทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง กรณีนี้ยังคงได้รับความสนใจจากสังคม กระทั่งมีการขุดคุ้ยพบวีรกรรมของครอบครัวกร่างนี้ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เคยเกิดเหตุคล้ายกันในพื้นที่ จ.นนทบุรี เมื่อปีก่อน และล่าสุดก็พบว่ามีคลิปเหตุการณ์อาละวาดเจ้าหน้าที่ตำรวจของครอบครัวนี้อีกครั้ง คราวนี้เหตุเกิดที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาของครอบครัวนี้

ส่วนความคืบหน้าคดี วันนี้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด จังหวัดระยองนำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปขออำนาจศาลแขวงจังหวัดระยอง เพื่อผัดฟ้องฝากขังครั้งแรก ซึ่งกรณีความผิดในศาลแขวง ผู้ต้องหาปฏิเสธ ผัดฟ้องได้ครั้งละ 6 วัน ไม่เกิน 5 ครั้ง ซึ่งหมายความว่าคดีนี้จะสามารถดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลได้ภายใน 30 วัน นับจากนี้ โดยทั้ง 2 ราย คือสามีและภรรยา เบื้องต้น ถูกแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหาตาม มาตรา 136 ความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และมาตรา 138 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และตำรวจกำลังจะแจ้งเพิ่มในความผิด พ.ร.บ.การจราจรอีกด้วย ส่วนลูกชาย ที่ชกเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ดำเนินคดีไปแล้ว 3 ข้อหา คือ ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวาง และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฎิบัติหน้าที่

ล่าสุด นายพยอม แสงวันดี และ น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล ได้พาบุตรชายนำกระเช้าไปขอโทษตำรวจ หลังก่อเหตุต่อยที่เบ้าตา ร.ต.อ.วิทยา วุฒิพันธ์ รอง สารวัตรจราจร สภ.มาบตาพุด รวมทั้งขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุด ที่ได้ล่วงเกินไปก่อนหน้านี้ ซึ่งการเข้าขอโทษในครั้งนี้ มีนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเป็นผู้ประสาน พาครอบครัวหัวร้อน เข้าพบตำรวจ สภ.มาบตาพุด โดยบรรยากาศหน้า สภ.มาบตาพุด มีกลุ่มนักเรียนและชาวบ้านถือป้าย

พร้อมตะโกนโห่ขับไล่เป็นระยะๆ ขณะที่ น.ส.หทัยรัตน์ ได้กล่าวขอโทษตำรวจ และประชาชนถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ยอมรับผิด ยืนยันว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ขอให้คนระยองให้อภัย รับว่าพอมองย้อนกลับไปดูพฤติกรรมตนเองก็รุนแรงมากจริงๆ ซึ่งครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนตนเองว่าการโมโห อารมณ์ร้อนไม่เป็นผลดีเลยด้านบุตรชายของ

น.ส.หทัยรัตน์ ยอมรับว่าควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ พร้อมขอโทษตำรวจกับการกระทำของตนเอง เป็นแค่อารมณ์ช่วยวูบขณะหนึ่ง ไม่โกรธที่สังคมตราหน้าว่าเป็นครอบครัวที่ชอบใช้ความรุนแรง ยอมรับว่าผิดจริง ฟากชาวบ้านที่มารวมตัวกันหน้า สภ.มาบตาพุด ไม่เชื่อว่าครอบครัวหัวร้อนเข้ามาขอโทษด้วยความจริงใจ รับไม่ได้กับพฤติกรรมของครอบครัวนี้ เป็นไปได้ก็อยากให้ครอบครัวนี้ออกไปจากพื้นที่ จ.ระยอง