กินจุบจิบนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอามากๆเลยนะค่ะ อีกทั้งถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ อย่าชะล่าใจไป โรคกินไม่หยุด หรือกินจุบจิบตลอดเวลา อาจร้ายแรงกว่าที่คุณคิด น่าห่วงที่สุดก็บรรดาสาวออฟฟิศที่ใช้เวลานั่งอยู่กับโต๊ะทำงานตลอดทั้งวัน งานยุ่ง แถมเครียด ทำให้มีพฤติกรรมกินจุบจิบตลอดเวลา พอตกบ่ายเริ่มง่วงก็ต้องหาอะไรขบเคี้ยว ที่แย่ไปกว่านั้นคือส่วนใหญ่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย จนน้ำหนักพุ่งปรี๊ด ถึงบางคนจะบอกว่าฉันมั่น ไม่แคร์ย่ะ แต่ช้าก่อน หันมาใส่ใจกับตัวเองสักนิด ก่อนที่สารพัดโรคภัยถามหา
กินจุบจิบ ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
– โรคยอดฮิตของคนอ้วนค่ะ นั่นคือโรคเบาหวาน
– อาจจะเกิดภาวะนี้ค่ะ นั่นก็คือกระเพาะคราก หรือกระเพาะขยายใหญ่ขึ้น เมื่อกินน้อย ก็จะรู้สึกไม่อิ่ม จึงต้องกินมาก ๆ จนทำให้อ้วน
– ในส่วนของระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ
– อาจจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับต่อมน้ำลายอักเสบ จากการล้นของกรดในกระเพาะอาหาร
– และสุดท้ายคือเกิดปัญหาในช่องปาก และฟัน
ฉะนั้นแล้วการกินจุบจิบ กินไม่หยุด หรือมีความสุขกับการกิน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น ภาวะที่ต้องการหาทางออกในเวลาที่มีปัญหาเกิดขึ้น หรือคุณอาจขาดการฝึกวินัยที่ดีให้กับตัวเอง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้แก้ไขได้ง่ายนิดเดียว
เริ่มจากการฝึกวินัยให้กับตัวเองอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้นะค่ะ ก่อนอื่นที่สำคัญสุดๆเลย คือการที่เราจำเป็นจะต้องทำการปรับเปลี่ยนอุปนิสัยในเรื่องของการกินอาหารให้เป็นเวลาไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเราไม่ได้บอกให้คุณงดของว่างซึ่งอาจเป็นของโปรดที่คุณชอบ แต่ให้คำนึงถึงหลักโภชนาการเพื่อสุขภาพ โดยปกติคนเรากิน 3 มื้อ คือ มื้อเช้า กลางวัน และเย็น ที่สำคัญควรเป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และในระหว่างวันอาจมีของว่างกรุบกริบได้ตามความเหมาะสม
ลด ละ เลิกสักที กับพฤติกรรม กักตุนของโปรด
ในส่วนของข้อนี้จะมีส่วนช่วยให้คุณยับยั้งชั่งใจได้ดี เพราะการขนซื้อขนมนมเนยอัดแน่นไว้เต็มโต๊ะ หรือล้นตู้เย็น เพียงเพื่อความอุ่นใจ แม้คุณจะบอกใครต่อใครว่าฉันจะกินมันอย่างมีวินัย ก็ดูเป็นเรื่องยาก เรียกว่ารับประกันไม่ได้ว่าคุณจะไม่หยิบมันขึ้นมากินในเวลาที่รู้สึกอยาก… เอาแค่พอประมาณดีกว่า ช่วงแรกอาจจะยากสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่า ไม่เกินความสามารถ
ไม่ทำกิจกรรมอย่างอื่นขณะที่กินอาหาร
ในเรื่องของการทำกิจกรรมสองอย่างในเวลาเดียวกัน จะส่งผลในเรื่องของการทำให้ร่างกายเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัวจนกระตุ้นความอยากอาหารได้ ยกตัวอย่างคนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วกินอาหารไปด้วย หรือดูทีวีไปพร้อม ๆ กับการกินอาหาร ถือเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากอาหาร จนทำให้ไม่รู้ตัวว่ากินไปมากน้อยเท่าไรแล้ว ซึ่งอุปนิสัยแบบนี้ล้วนเป็นผลเสียต่อสุขภาพ
เปลี่ยนจาก “ขนมขบเคี้ยว” เป็นเครื่องดื่ม
เวลาก็ตามนะค่ะ ที่คุณรู้สึกเครียด หงุดหงิด หรือง่วงเหงาหาวนอน อย่าบำบัดตัวเองด้วยการกระหน่ำกินเด็ดขาด ไม่เป็นผลดีหรอก อย่างมากคุณก็แค่รู้สึกอิ่มแปล้แค่นั้น เปลี่ยนทัศนคติกันใหม่ ลองหาอะไรร้อน ๆ จิบดีกว่า แนะนำ ชาสมุนไพร นอกจากจะช่วยให้คุณลดความอยากกินได้แล้ว ชาสมุนไพรยังเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เพราะไม่มีคาเฟอีน ถ้าอยากเพิ่มรสชาติ แนะนำให้ใส่น้ำผึ้งแทนน้ำตาล บำรุงสุขภาพ อร่อยแถมไม่อ้วน
เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินครั้งนี้สำเร็จลุล่วง นอกจากวินัยที่สร้างได้จากตัวคุณเองแล้ว อย่าลืมชักชวนเพื่อน ๆ มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยกัน ก็จะยิ่งสร้างแรงบันดาลใจ ได้ทั้งความสนุก และไม่เครียดจนเกินไป แถมได้สุขภาพ+รูปร่างที่ดีเป็นของแถมด้วย