“ตะไคร้” เป็นพืชที่มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยา คือ ช่วยขับเหงื่อ บรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบได้ จัดอยู่ในพืช ฤทธิ์ร้อนเช่นเดียวกับไพล ขิง และข่า
ซึ่งจะออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นเมื่อ กระตุ้นด้วยความร้อน
ตามหลักของการบรรเทาอาการปวดและการอักเสบจะใช้ความร้อน ประมาณ 40 – 45 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวก ไม่ว่าจะเป็นวิธีอบ แช่ หรืออาบ ประกอบกับการใช้ยาสมุนไพรร่วมด้วย จะช่วยบรรเทาอาการปวดในผู้ที่มีอาการไม่มากและไม่ได้ปวดเรื้อรังได้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวมีใช้มาตั้งแต่โบราณ
วิธีการแช่น้ำตะไคร้ที่แนะนำ
1. หั่นตะไคร้เป็นท่อน ทุบพอแตก ให้น้ำมัน หอมระเหยออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
2. นำไปต้มจนเดือด
3. ผสมกับน้ำอุณหภูมิห้อง ให้อุณหภูมิน้ำอยู่ที่ ประมาณ 40 – 45 องศาเซลเซียส
4. แช่น้ำต้มตะไคร้ประมาณ 15 – 30 นาที หรือจนกว่า น้ำจะเย็น
5. ไม่ต้องล้างออก โดยปล่อยให้ตัวยาที่หลงเหลือ ซึมเข้าสู่ผิวและแห้งไปเอง
ประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการจะขึ้นอยู่กับความมากน้อยของอาการปวด และไม่ได้มีส่วนช่วยเรื่องปวดข้อมากนัก
สรรพคุณของตะไคร้
ทั้งต้น ใช้เป็นยารักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะและแก้อหิวาตกโรค หรือทำเป็นยาทานวดก็ได้ และยังใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่นรักษาโรคได้ เช่น บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และขับเหงื่อ
หัว เป็นยารักษาเกลื้อน แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปัสสาวะพิการ แก้นิ่ว บำรุงไฟธาตุ แก้อาการขัดเบา ถ้าใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะเป็นยาแก้อาเจียน แก้ทราง ยานอนหลับลดความดันสูง แก้ลมอัมพาต แก้กษัยเส้น และแก้ลมใบ ใบสด ๆ จะช่วยลดความดันโลหิตสูง แก้ไข้
ราก ใช้เป็นยาแก้ไข้เหนือ ปวดท้องและท้องเสีย
ต้น ใช้เป็นยาแก้ขับลม แก้เบื่ออาหาร แก้ผมแตก แก้โรคทางเดินปัสสาวะ นิ่ว เป็นยาบำรุงไฟธาตุให้เจริญ แต่ถ้าเอาผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะแก้โรคหนองใน และนอกจากนี้ยังใช้ดับกลิ่นคาวด้วย
by TVPOOL ONLINE


