เอาละค้า !! ใครที่มีอาการคันตามจุดต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะการคันเรื้อรังที่ไม่หายสักที รู้มั้ยว่าร่างกายนั้นกำลังส่งสัญญาณเตือนภัยให้คุณรู้ว่า อาจจะเป็นโรคแทรกซ้อนอื่นๆ อยู่ก็เป็นได้!! ไปดูกันเลย
อาการคันโรคเลือด
มักจะคันที่บริเวณรอบทวารหนัก และที่อวัยวะเพศหญิง หรืออาจจะคันหลังจากที่ผิวได้สัมผัสน้ำ อย่างเช่น หลังจากการอาบน้ำร้อน หรืออาบน้ำฝักบัว ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก อาจจจะมีผิวสีซีด ที่ลิ้น และมุมปากอาจมีอาการอักเสบ
อาการคันโรคไต
มักคันเป็นครั้งคราว หรืออาจคันต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน อาการคันมักกำเริบเวลากลางคืน หรือระหว่างทำการฟอกไตหรือเพิ่งทำเสร็จ และมักมีผิวแห้ง
อาการคันโรคตับ
ส่วนมากจะคันที่มือและเท้า และตำแหน่งที่สวมเสื้อผ้ารัดรูป แต่จะไม่ได้คันต่อเนื่อง คันเป็นช่วงๆ อาจพบผิวสีเหลือง (ดีซ่าน) และไฝแดงลักษณะเหมือนแมงมุม ในผู้ชายอาจมีเต้านมโตผิดปกติ หนังตาบนมีก้อนไขมันสีเหลือง ม้ามโต ผิวมีสีโคลน
อาการคันโรคต่อมไร้ท่อ
มักจะคันทั่วร่างกาย และสัมพันธ์กับอาการของโรคที่เป็น ดังต่อไปนี้
– ผู้ป่วยเบาหวาน บางรายอาจคันเฉพาะที่ พบบ่อยที่อวัยวะเพศหญิง หรือทวารหนัก พบบ่อยว่ามีการติดเชื้อยีสต์ และเชื้อราร่วมด้วย
– ผู้ป่วยที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย จะมีเล็บเปราะ ผิว และผมหยาบแห้ง
– ผู้ป่วยที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมาก จะมีผิวอุ่น เรียบ และละเอียด อาจมีโรคลมพิษเรื้อรัง อาการแสดงอื่นๆ คือ มีไข้ หัวใจเต้นเร็ว ตาโปน
อาการคันโรคมะเร็ง
มีอาการคันรุนแรงปานกลาง ถึงคันมาก โดยเฉพาะแขนด้านนอก และหน้าแข้ง หรือถ้าหากมีอาการคันในรูจมูก สันนิษฐานได้ว่าอาจจะสัมพันธ์กับเนื้องอกในสมอง ยังมีในส่วนของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาจนำมาก่อนการวินิจฉัยโรคนานถึง 5 ปี ซึ่งจะมีอาการคันชนิดที่คันจนทนไม่ได้ เพราะคันต่อเนื่องและรุนแรงมาก
อาการคันจากโรคเอดส์
อาจพบผื่นลอกเป็นขุยที่ใบหน้า (seborrheic dermatitis) มีอาการผิวแห้ง มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น ติดเชื้อรา เชื้อไวรัส เป็นต้น
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการคันเรื้อรัง แนะนำให้ไปควรตรวจร่างกายกับคุณหมอ และแม้จะตรวจไม่พบสาเหตุใดๆ ก็อาจต้องรับการตรวจซ้ำทุกๆ 3-6 เดือน