เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวานนี้(7 มิ.ย.61) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภาค 6 ถนนวังจันทน์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก  พล.ต.ต.ภานุ  บุรณศิริ ผบก.สส.ภ.6  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปปส.ภาค 6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6

ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊งยาบ้า “มันทุกเม็ด” เปิดขายยาบ้าผ่านทางเฟซบุ๊กในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 18.30 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนกรณีนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง คือ นายปัณณวิชญ์  หรือโก๋แก่ ได้ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “เจ้าพ่อ พิษณุโลก” โพสต์ข้อความเชิญชวนเปิดรับสมัครสมาชิกให้รับยาเสพติดไปจำหน่ายให้ โดยไม่ต้องลงทุน

เพียงแค่มีบัตรประจำตัวประชาชนส่งข้อความมาพูดคุยก็สามารถรับยาเสพติดไปจำหน่ายได้ แล้วค่อยโอนเงินเข้าบัญชีภายหลังที่ได้จำหน่ายยาเสพติดไปแล้ว และยังมีการจูงใจเครือข่ายยาบ้าหน้าใหม่ หากใครแนะนำลูกค้ามาได้จะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้จำนวน 500 บาท

ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวโดยให้สายลับติดต่อพูดคุยกับนายปัณณวิชญ์ และได้ติดต่อขอรับยาเสพติดไปจำหน่าย

โดยมีการนัดหมายส่งยาบ้าที่บริเวณถนนสายพิษณุโลก – บางระกำ และสามารถจับกุมนายสิทธิชัย  แสงสีมล  อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 2 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด ส่วนนายชายชนะ ที่มาด้วยกันได้ขับรถยนต์หลบหนีไป

จากนั้นได้ขยายผลการจับกุมไปตรวจค้นบ้านนายชายชนะ ได้ของกลางยาบ้าเพิ่มอีกจำนวน 16,000 เม็ด รวมทั้งหมด 18,000 เม็ด มูลค่ากว่า 5 แสนบาท ส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ภานุ  บุรณศิริ ผบก.สส.ภ.6  เปิดเผยว่า เครือข่ายของแก๊งยาบ้า “มันทุกเม็ด” ที่เปิดขายผ่านทางเฟซบุ๊คเป็นเครือข่ายรายใหญ่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์

ขณะนี้ตัวการระดับสั่งการได้หลบหนีอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่สั่งการให้เครือข่ายรายเล็กจำหน่ายแทนโดยเปิดขายผ่านทางเฟซบุ๊กมานานกว่า 2 เดือนแล้ว จึงได้วางแผนทำการจับกุมตัวดังกล่าว

นอกจากนี้ยังพบว่าแก๊งนี้มีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อน หากลูกค้ารายย่อยนำยาบ้าไปขายแล้วไม่ยอมโอนเงิน หรือเรียกว่าบิดของ ก็จะสั่งลูกน้องเข้าไปอุ้มและกระทืบและใช้ไม้เบสบอลทุบตีทำร้ายร่างกาย

ก่อนจะถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ไปลงในเฟซบุ๊กเพื่อไม่ให้ลูกน้องรายอื่นๆ ทำเป็นเยี่ยงอย่างและให้เกรงกลัว หากรายใดแข็งข้อก็ส่งมือปืนไปเก็บโดยมีค่าหัวให้ถึง 20,000 บาท หนักสุดก็จะเอาที่อยู่ในบัตรประชาชนที่พ่อค้ายารายย่อยได้ให้ไว้กับแก๊งนี้ไว้ ไปข่มขู่ญาติพี่น้องครอบครัวอีกด้วย

โดยทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อทำการจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้อง และหากคนร้ายริอาจต่อสู้ก็จะต้องวิสามัญทันทีอย่างเด็ดขาดแบบถอนรากถอนโคนอีกด้วย