เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อันดับ 1 ชาเขียวรสน้ำผึ้งผสมมะนาว

มีน้ำตาล 10.9% (ขวดบรรจุ 500 มล. มีน้ำตาล 54.5 กรัม = น้ำตาล 13.6 ช้อนชา)

**ฉลากข้างขวดส่วนประกอบโดยประมาณ น้ำชาเขียว 85% ฟรุกโตส 9.5% น้ำตาล 5% น้ำเลมอน 0.003% น้ำผึ้ง 0.0025%

อันดับ 2 ชาดำรสเลมอนไอซ์ที

มีน้ำตาล 10.5% (ขวดบรรจุ 500 มล. มีน้ำตาล 52.5 กรัม = น้ำตาล 13.1 ช้อนชา)

**ฉลากข้างขวดส่วนประกอบโดยประมาณ น้ำชาดำ 67.3% น้ำชาเขียว 20% น้ำตาล 7.5% ฟรุกโตส 5%

อันดับ 3 ชาเขียวผสมเก๊กฮวยและชาเขียวรสข้าวญี่ปุ่น

ชาเขียวผสมเก๊กฮวย มีน้ำตาล 6.7% (ขวดบรรจุ 500 มล. มีน้ำตาล 33.5 กรัม = น้ำตาล 8.3 ช้อนชา)

**ฉลากข้างขวดส่วนประกอบโดยประมาณ น้ำชาเขียว 63.5% น้ำเก๊กฮวย 30% ฟรุกโตส 6.4%

ชาเขียวรสข้าวญี่ปุ่น มีน้ำตาล 6.7% (ขวดบรรจุ 500 มล. มีน้ำตาล 33.5 กรัม = น้ำตาล 8.3 ช้อนชา)

**ฉลากข้างขวดส่วนประกอบโดยประมาณ น้ำชาเขียว 93.9% ฟรุกโตส 6% น้ำข้าวญี่ปุ่น 0.05%

อันดับ 4 ชาเขียวรสต้นตำรับ

น้ำตาล 6.3% (ขวดบรรจุ 500 มล. มีน้ำตาล 31.5 กรัม = น้ำตาล 7.8 ช้อนชา)

**ฉลากข้างขวดส่วนประกอบโดยประมาณ น้ำชาเขียว 93.95% ฟรุกโตส 6%

 

เพื่อนๆลองเลือกดูเฉพาะรสชาติที่ชอบดื่ม แล้วคูณกับจำนวนที่ดื่มต่อวัน

คำนวณปริมาณน้ำตาลคร่าวๆดูเอานะ …….(นี่ยังไม่รวมกับน้ำตาลในอาหารอย่างอื่นที่เราทานเข้าไปน่ะ)

 

แค่ดื่มชาเขียวแค่ 1 ขวด เราได้รับน้ำตาลเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน

ทำไมเราถึงต้องลดน้ำตาลลงบ้าง??
– เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน
– เสี่ยงต่อไขมันอุดตันในเส้นเลือด
– เสี่ยงต่ออาการไขมันพอกตับ
– เสี่ยงต่อระบบไหลเวียนเลือดปั่นป่วน
– ระดับคอเลสเตอรอลสูง
– เหนื่อยง่ายไม่สดชื่นแจ่มใส