เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยน้ำว้าให้สังเกตอาการของโรคปานามา สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของต้นกล้วย มักพบแสดงอาการของโรคมากในระยะที่ต้นกล้วยสร้างปลีจนถึงระยะติดผล อาการเริ่มแรกพบใบกล้วยด้านนอก หรือใบแก่เหี่ยวเหลือง และลุกลามเหลืองจากขอบใบเข้ากลางใบ ก้านใบหักพับตรงรอยต่อกับลำต้น และทยอยหักพับตั้งแต่ใบด้านนอกเข้าไปสู่ใบด้านใน

 

ซึ่งระยะแรกใบยอดยังเขียวตั้งตรง ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และใบทั้งหมดจะเหี่ยวแห้ง หากตัดลำต้นกล้วยตามขวาง หรือตามยาว จะพบเนื้อในของกาบใบบางส่วนเน่าเป็นสีน้ำตาล ต้นกล้วยชะงักการเจริญเติบโตและตายในที่สุด เกษตรกรควรหมั่นตรวจและกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบให้ราดบริเวณกอกล้วย หรือโคนต้น ที่เป็นโรคด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช หรือสารทีบูโคนาโซล กรณีพบอาการรุนแรงจนใบเหลืองและเหี่ยวตายทั้งต้น ให้ขุดต้นที่เป็นโรคออกไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก จากนั้นโรยปูนขาว หรือโดโลไมท์ปรับสภาพดินไม่ให้เป็นกรดจัด ให้ทั่วบริเวณหลุมที่ขุดต้นเป็นโรคออกไป หรือกอที่เป็นโรค อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อหลุม และควรทำความสะอาดอุปกรณ์การเกษตรที่ใช้กับต้นที่เป็นโรคก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ ที่สำคัญควรทำแปลงปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี และควรระมัดระวังการให้น้ำ โดยไม่ให้น้ำไหลผ่าน จากต้นที่เป็นโรคไปสู่ต้นปกติหากเกษตรกรต้องการปลูกกล้วยในพื้นที่ใหม่ หลีกเลี่ยงการปลูกในพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรคนี้มาก่อน และไม่นำหน่อพันธุ์จากต้นตอที่เป็นโรคไปปลูก ให้เลือกใช้หน่อกล้วยที่มีคุณภาพดีจากแหล่งปลอดโรค รวมถึงควรสลับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรค