เอาละค้า !! สาวๆรู้หรือไม่ว่า “แมงลัก” เป็นพืชผักสวนครัว ที่มีหน้าตาคล้ายกับกะเพราและโหระพา ส่วน เม็ดแมงลัก ก็เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อในการช่วยลดน้ำหนัก แต่ต้องขอบอกไว้เลยว่า เม็ดแมงลัก ไม่ได้มีสรรพคุณในการลดน้ำหนักโดยตรง แต่จะช่วยเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยจ้า
อยู่ท้อง
เม็ดแมงลักเมื่อแช่น้ำจะพองตัวได้ถึง 45 เท่า ถ้าใครกำลังควบคุมอาหาร แนะนำให้กินเม็ดแมงลักก่อนมื้ออาหารสักครึ่งชั่วโมง จะทำให้กินข้าวได้น้อยลง
แคลอรี่ต่ำ
100 กรัมให้พลังงาน 420 กิโลแคลอรี่ เท่านั้น แต่สารอาหารเพียบ ทั้งวิตามินบี 1, 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โปรตีน น้ำและไฟเบอร์
กำจัดคอเลตเตอรอล
กำจัดเฉพาะคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี หรือ LDL โดยที่เส้นใยในเม็ดแมงลักจะทำการดูดซับไขมันชนิดไม่ดี และถูกขับถ่ายออกมา และจากการศึกษายังพบว่ฃา เส้นใยในเม็ดแมงลักจะไม่ดักจับไขมันดี หรือ HDL ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ช่วยในการขับถ่าย
เนื่องจากเม็ดแมงลักมีกากใยอาหารอยู่มาก จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการ ดีท็อกซ์ลำไส้ แก้ปัญหาอุจจาระตกค้าง ที่เกิด
การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด หรือกินอาหารที่มีกากใยน้อยนั่นเอง
ลดเสี่ยงโรคหัวใจ
เนื่องจากเม็ดแมงลักมีคุณสมบัติในการกำจัดไขมันไม่ดีในร่างกาย จึงเป็นการลดความเสี่ยงโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดและโรคหัวใจได้ดี
ลดการดูดซึมน้ำตาล
เม็ดแมงลักมีคุณสมบัติที่ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ช้าลง รวมถึงน้ำตาลด้วย เหมาะกับคนที่เป็นเบาหวาน
กินแบบไหนถึงจะดี?
รอให้พองเต็มที่ก่อนค่อยกิน
ถ้าเรากินเม็ดแมงลักที่ยังพองตัวไม่เต็มที่ มันจะเข้าไปดูดซึมน้ำที่อยู่ในช่องทางเดินอาหาร ทำให้เม็ดแมงลักไปจับตัวเป็นก้อนและอุดตันอยู่ในลำไส้ แทนที่จะช่วยให้ขับถ่ายได้คล่อง กลับทำให้ท้องผูกและท้องอืดแทนได้นะ
ห้ามกินพร้อมยา
เม็ดแมงลักจะดูดซึมยาที่กิน ทำให้ยาไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ทางที่ดีควรทานยาก่อนสักประมาณ 15-30 นาทีแล้วค่อยกินเม็ดแมงลักตาม
อย่ากินมากเกินไป
หลายคนที่พอรู้ว่ากินแล้วจะช่วยให้ผอม ช่วยให้ไม่อยากอาหาร ก็กินใหญ่เลย กินแทนอาหารทุกมื้อ ไม่แตะอาหารอย่างอื่นเลย ถ้าเป็นแบบนั้นก็อาจทำให้ขาดสารอาหารได้นะ
by TVPOOL ONLINE