การยื่นขอสินเชื่อบ้านถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน เพราะนอกจากเอกสารที่ต้องเตรียมมากมายแล้ว ยังต้องมีความพร้อมในด้านต่างๆ อาจต้องเตรียมล่วงหน้ากันเป็นเดือนเป็นปีด้วย แต่สำหรับใครก็ตามมีความมั่นใจว่าพร้อมแล้ว เรามาทบทวนตามเช็คลิสต์เตรียมความพร้อม ก่อนยื่นขอสินเชื่อบ้าน 10 ข้อนี้กันดูสักหน่อย เพื่อความมั่นใจ และหากมีอะไรต้องแก้ไข จะได้จัดการได้ทัน
1.ไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลอยู่ในเครดิตบูโร
หลายคนเข้าใจผิดมาตั้งนานว่าการจะซื้อบ้านได้ หรือ กู้ผ่านนั้น จะต้องเคยมีข้อมูลอยู่ในเครดิตยูโร เรียกง่ายๆว่าเป็นหนี้นั่นแหละ ทั้งที่จริงแล้วการขอสินเชื่อบ้าน ไม่จำเป็นจะต้องเคยมีหนี้หรือถ้ามีก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ แต่วงเงินกู้อาจจะลดลง เพราะการพิจารณาผ่านหรือไม่ เครดิตบูโรเป็นแค่ขั้นตอนในการตรวจสอบความรับผิดชอบของผู้ขอสินเชื่อเสียมากกว่า หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ถ้าไม่เคยมีหนี้ ก็ไปสมัครบัตรเครดิตเพื่อให้ปรากฏข้อมูลในเครดิตบูโรให้ทางธนาคารนำไปพิจารณาการขออนุมัติได้ง่ายขึ้น
- ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ หรือหนี้ค้างชำระ
สำหรับคนที่มีข้อมูลในเครดิตบูโรอยู่แล้ว อย่าลืมตรวจสอบดูว่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา เคยมีประวัติผิดนัดชำระ จ่ายล่าช้ากว่ากำหนดมากเกินกว่า 30 วันหรือมีหนี้ค้างชำระอยู่บ้างหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการพิจารณาความสามารถทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อบ้าน และวงเงินกู้ที่จะได้รับด้วย สำหรับประวัติผิดนัดชำระ และชำระล่าช้า จะมีผลต่อการพิจารณาว่าผู้ขอสินเชื่อเป็นลูกหนี้ชั้นดีหรือไม่ ส่วนหนี้ค้างชำระ อาจถูกนำไปหักลบกับรายได้ ส่งผลให้วงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติลดลงได้ ดังนั้นการไม่มีประวัติเสียเลย จึงจะเป็นการดีที่สุด
- ไม่มีรายการผ่อนชำระ
บางคนอาจคิดว่า รายการผ่อนชำระเล็กๆ น้อยๆ ระยะเวลาเพียง 3-6 เดือน ไม่มีผลอะไรกับการยื่นขอสินเชื่อบ้าน แต่ที่จริงแล้ว รายการผ่อนชำระยิบย่อยเหล่านี้ก็มักจะถูกนำเอามาพิจารณาด้วยอยู่เสมอ ซึ่งกรณีนี้ก็จะคล้ายกับส่วนของหนี้ค้างชำระในข้อก่อน คือมีผลต่อวงเงินกู้ที่จะได้รับอนุมัติ และหากมีรายการผ่อนชำระยาวเป็นหางว่าว ก็อาจยื่นกู้ไม่ผ่านเอาได้ง่ายๆ ขอให้ระวังในจุดนี้ด้วย
- ปิดบัตรเงินสด
ในสายตาของธนาคาร บัตรเครดิต กับบัตรเงินสด มีความแตกต่างกันอย่างมาก สำหรับการยื่นขอสินเชื่อบ้าน บัตรกดเงินสดยิ่งมีจำนวนมากเท่าไร ยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการขอสินเชื่อบ้านมากขึ้นเท่านั้น เพราะบางธนาคารอาจนับรวมวงเงินของบัตรกดเงินสด เข้าไปไว้ในภาระหนี้ที่คุณกำลังรับผิดชอบอยู่ได้ เนื่องจากบัตรกดเงินสด คือบัตรที่สามารถกดเงินสดออกมาใช้เมื่อไรก็ได้ ดังนั้นสำหรับใครที่มีบัตรเงินสดหลายใบ การปิดบัตรเงินสดให้เหลือน้อยที่สุด หรือปิดทั้งหมดเลย ก็ย่อมจะเป็นการเคลียร์ตัวเองที่ดีกว่า
- มีเงินออม
แน่นอนว่าการมีเงินออมนั้นเป็นเรื่องที่ดี สำหรับในส่วนของการยื่นขอสินเชื่อบ้านอาจจะพูดได้ว่าเงินออมเป็นเรื่องจำเป็น เพราะนอกจากจะมีไว้เผื่อว่าทางธนาคารเรียกขอดูเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อแล้ว ยังจำเป็นต้องมีเงินไว้ใช้จ่ายในส่วนของการดำเนินการต่างๆ เพื่อจะได้เป็นเจ้าของบ้านด้วย ซึ่งมักจะอยู่ในราว 5-15% ของราคาบ้านที่คิดจะซื้อ และเงินออมอีกส่วนราว 10% เพื่อใช้ตกแต่งบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์ และของใช้ภายในบ้าน
- ศึกษาเปรียบเทียบเงื่อนไขการยื่นขอสินเชื่อบ้านของหลายๆธนาคาร
การยื่นขอสินเชื่อบ้าน ก็คล้ายกับการทำการบ้านอย่างหนัก เนื่องจากแต่ละธนาคารมีอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป การจะได้สิ่งที่คุ้มค่า และดีที่สุด เราต้องศึกษาเปรียบเทียบให้ดีก่อน แล้วจึงตัดสินใจเลือก บางแห่งอัตราดอกเบี้ยสูง แต่ดูยื่นผ่านง่ายกว่า บางแห่งต้องการเอกสารมากมาย เงื่อนไขละเอียดยิบย่อย แต่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าทุกที่ จะเลือกยื่นธนาคารไหน ก็ศึกษาเปรียบเทียบดูให้ดีก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ
- อายุงานตรงตามที่ธนาคารกำหนด
หลายคนลืมนึกถึงเรื่องของอายุงาน หรืออายุกิจการ ที่บางธนาคารกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด จากข้อที่แล้วเราทราบแล้วว่า รายละเอียดขอยื่นกู้ และเงื่อนไขข้อกำหนดของแต่ละธนาคารนั้นแตกต่างกัน สำหรับพนักงานประจำ หากอายุงานเกิน 2 ปีแล้ว ก็ถือว่าปลอดภัย แต่สำหรับกรณีอื่นๆ ขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขของธนาคารแต่ละแห่งให้ดี ว่าตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่
- เอกสารครบ (ตามที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด)
โดยทั่วไป เอกสารที่ต้องใช้จะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ส่วนแรก คือ เอกสารส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส และอื่นๆ ส่วนต่อมา คือ เอกสารเกี่ยวกับความสามารถทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน statement ทะเบียนการค้า (ในกรณีเจ้าของกิจการ) และอื่นๆ ส่วนสุดท้าย คือ เอกสารรายละเอียดทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด สัญญามัดจำ สัญญาจะซื้อจะขาย และอื่นๆ ขอให้ตรวจสอบกับทางธนาคารให้ดีว่า เอกสารใดใช้เพียงสำเนา เอกสารใดใช้ฉบับจริงด้วย จะช่วยให้เราเตรียมเอกสารไปได้ครบ ในบางกรณี ทางธนาคารอาจขอเอกสารเพิ่มเติม ควรนำเอกสารไปยื่นกับทางธนาคารภายใน 3 วัน เพื่อความต่อเนื่องของการพิจารณาสินเชื่อบ้าน
- ลักษณะการเดินบัญชีเป็นปกติ
สำหรับพนักงานประจำ ได้รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคาร ขอแนะเคล็ดสักเล็กน้อยว่า อย่าถอนเงินเดือนออกจากบัญชีหมดในหนเดียว ควรทยอยถอนออก หรือถ้าจำเป็นจะต้องถอนออกในหนเดียว ควรเหลือเงินค้างไว้ในบัญชีสัก 1/3 ของเงินเดือนทั้งหมด เพื่อให้ทางธนาคารประเมินว่าคุณมีเงินออมเบื้องต้น หรือเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้ สำหรับใครที่มีการเดินบัญชีในลักษณะแปลกออกไป หากทางธนาคารมีคำถาม ก็ควรอธิบายการเดินบัญชีกับทางธนาคารได้ด้วย
- กรณีขอกู้ร่วม ความสามารถทางการเงินของทุกคนต้องดี
เนื่องจากทางธนาคารมักจะพิจารณาความสามารถทางการเงินเป็นรายบุคคล ดังนั้นในกรณีกู้ร่วม พฤติกรรมการเงินของทุกคนควรอยู่ในระดับดี เพราะถ้าหากมีสักคนหนึ่งที่มีประวัติไม่ดี ก็จะส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อในครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
By
DD Property
by TVPOOL ONLINE
