เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เอาละค้า !! รู้หรือไม่ว่าการดูหนังฟังเพลงด้วยหูฟังเป็นวิธีสร้างความบันเทิง และความรู้สึกผ่อนคลายแบบส่วนตัวสุดๆ  สมัยนี้เดินไปทางไหนก็เห็นแต่คนเสียบหูฟังไว้ในหู  จนหลายคนอาจลืมนึกไปว่า การใช้หูฟังมากๆ อย่างไม่ระวัง อาจส่งผลเสียต่อระบบการได้ยินได้  หากใครยังสงสัยว่า การใช้หูฟังจะทำให้หูหนวกได้หรือไม่  บอกได้เลยค่ะ ว่ามีโอกาสแน่นอน

ไม่ใช่เพียงเสียงดังจากหูฟังเท่านั้นที่สามารถทำร้ายแก้วหูได้  แต่การฟังนาน หรือบ่อยเกินไป  ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหูอื้อได้เช่นกัน

องค์การอนามัยโลกระบุว่า  ระดับเสียงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อแก้วหูได้คือระดับเสียงที่ดังกว่า 85 เดซิเบล  โดยมีการฟังที่ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน  แต่หากคุณต้องฟังเสียงที่ดังเกิน 100 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงในงานคอนเสิร์ต เพียงแค่ 15 นาทีก็เริ่มส่งผลกระทบต่อแก้วหูแล้ว  ดังนั้น  ควรมีการกำหนดลิมิตในการใช้หูฟัง  ให้มีความดัง จำนวนครั้ง และระยะเวลาที่พอดี  เพื่อเป็นการปกป้องสุขภาพของแก้วหูค่ะ

สำหรับคำแนะนำในการใช้หูฟังที่ถูกต้องนั้น  มีสูตรคือ 60 – 60 ซึ่งหมายถึง คุณควรฟังเพลงโดยใช้หูฟังไม่เกิน 60 นาที  โดยมีระดับความดังที่ไม่เกิน 60% ของความดังสูงสุด  และจากนั้นให้พักหูอย่างน้อย 60 นาทีถึงจะฟังใหม่ได้ค่ะ

2. เลือกหูฟังให้เหมาะสม

มีการทดลองพบว่า หูฟังแบบ Headphone สามารถลดผลกระทบจากเสียงได้ดีกว่าการใช้หูฟังแบบ In-ear  หรือหูฟังอันเล็กๆ ที่ต้องเสียบไว้ที่รูหู  เพราะหูฟังแบบ Headphone จะสามารถกระจายเสียงได้ดีกว่า  ขณะที่ แบบ In-ear จะส่งตรงเสียงไปในหูโดยตรง  ซึ่งทำให้แก้วหูได้รับการกระทบกระเทือนมากกว่าค่ะ

3. อย่าใช้หูฟังเพื่อกลบเสียงรอบข้าง

สำหรับคนที่ชอบเปิดเสียงเพลงดังๆ เพื่อกลบเสียงรอบข้างนั้น   พฤติกรรมเช่นนี้จะยิ่งส่งผลเสียต่อแก้วหูอย่างมาก  ดังนั้น หากต้องอยู่ในสถานที่เสียงดังบ่อยๆ แนะนำว่าให้เปลี่ยนมาใช้หูฟังแบบ Noise-cancellation headphone ซึ่งมีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนรอบข้าง  โดยที่คุณไม่ต้องปรับเสียงให้ดังขึ้นค่ะ

ถึงแม้จะเป็นคนชอบฟังเพลงขนาดไหน  แต่การรักษาความปลอดภัยของหูก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด  เพราะแก้วหูไม่ใช่สิ่งที่จะหาเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ  หากกลายเป็นโรคหูหนวกไปแล้ว อดฟังเพลงตลอดชีวิตจะหาว่าเราไม่เตือนไม่ได้นะคะ