หลังออกมาเปิดเผยเรื่องครอบครัว เปิดตัวพี่ชาย ซึ่งจริงๆ คือ พ่อที่แท้จริงของตัวเอง ทั้งที่ปิดเป็นความลับมานานสิบๆปีว่า งานนี้สาวแพทก็ได้อุ้มน้องเรซซิ่ง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ต้องเปิดเผยความลับนี้
แพท ณปภา ตันตระกูลก็เพิ่งเปิดเผยเมื่อวันก่อนเกี่ยวกับผู้ที่ให้กำเนิดอย่างแท้จริงเปิดเรื่องลับ ‘แพท ณปภา’ ที่แท้มีแม่ผู้ให้กำเนิดอีกคน ปล่อยโฮ “ขอบคุณที่ให้โอกาสได้ลืมตาดูโลก”ล่าสุดแพทซึ่งไปร่วมงานซีไลฟ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ตัดสินใจออกมาพูดส่วนหนึ่งก็เพื่อพ่อ และอีกส่วนก็เพื่อลูกคือ น้องเรซซิ่ง
ทั้งนี้แพทบอกว่าแม้จะรู้ความจริงมานาน แต่ตอนนี้ก็ยังเรียกพ่อว่าพี่ ด้วยความเคยชิน
เขาก็โอเค แต่ลึกๆแล้วคงอยากได้สถานะของเขากลับ
ขณะเดียวกันก็อยากให้เรซซิ่งโตมากับความจริงว่าใครเป็นใคร
สำหรับคนป็นเแม่ตัวจริงแพทบอกยังไม่มีโอกาสได้พบ แต่เท่าที่ทราบจากพ่อคือแม่ไม่ได้อยู่ไกล
“คุณพ่อบอกว่าถ้าอยากเจอให้บอก เหมือนคุณพ่อน่าจะยังติดต่ออยู่ แต่ไม่ได้ใกล้ชิดมาก เพราะคุณแม่มีครอบครัวใหม่แล้ว”
ส่วนเมื่อถามว่าจริงๆแล้วอยากเจอไหม?
“อันนี้เป็นคำถามที่ทุกวันนี้ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้เลย แพทว่า
เราไม่เคยขาดความรัก เรามีแม่อีกคนเหรอ แล้วจะทำยังไงดี เจอแล้วจะพูดกับเขาคำแรกว่าอะไร เพราะเราไม่เคยเห็นหน้า ไม่มีรูป พ่อก็บอกว่าเดี๋ยวจะเป็นตัวกลางให้”
บอกด้วยว่าอันที่จริงแม่เคยมาหา 2-3 ครั้งแล้ว แต่ไม่เจอ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทิ้งช่องทางติดต่อไว้ให้
จะมีเรื่องอะไรที่เซอร์ไพรส์อีกไหม แพทก็บอก เหลืออีกเรื่องเดียวเท่านั้น และเป็นเรื่องใหญ่อยู่เหมือนกันว่าจะกลับมาได้อยู่เป็นครอบครัว หรือเธอจะต้องเป็นซิงเกิ้ลมัมแบบนี้ยาวๆไป อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ได้คุยกับสามีคือ เบนซ์ ไว้บ้างแล้ว
“มีคุยแล้วแหละว่ามันยังตอบอะไรไม่ได้ ตอนนี้เรื่องก็ไม่จบ ลุ้นไปพร้อมๆกันกับเขา บอกเขาว่า ถ้าวันหนึ่งทุกอย่างจบ เขาได้ออกมา ต้องมานั่งจูนกันใหม่ พูดกับเขาตรงๆ เพราะเรื่องราวระหว่างเราสองคนหนักมาก ทั้งก่อนมีเรื่อง จนมีเรื่อง จน ณ ตอนนี้มีหลายอย่างที่แพทแบกรับมาหนัก
ถึงเวลาที่ออกมาคงต้องมานั่งคุยกันว่าเรายังจะไปกันแบบ 3 คน หรือเราจะไปกันแบบ 1 กับ 2 คุยกับเขาแล้วค่ะ ว่าเดี๋ยวค่อยออกมาคุยกันดีกว่า
ยังบอกอีกว่า ที่ต้องบอกไปตั้งแต่ตอนนี้ คืออยากบอกตรงๆว่าเราเลี้ยงลูกมาคนเดียวปีกว่า ถึงวันหนึ่งถ้าคุณอยากเข้ามามีส่วนร่วม คุณคงต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะตอนนี้แพทรับภาระทุกอย่างของลูก บอกเขาว่าภาระตั้งแต่ก่อนหน้าจนถึงตอนนี้ ทำให้แพทคิดอะไรได้หลายอย่าง เพราะฉะนั้นออกมาแล้ว ต้องมานั่งจูนกันอีกทีว่าจะเอายังไงกันดี”
ในส่วนครอบครัวของเบนซ์ แพทว่าเธอพาลูกไปหาบ้างตอนเบนซ์ขึ้นศาล แต่ไม่ได้พาไปหาที่บ้านเพราะยุ่งกับการทำงาน ขณะเดียวกันที่ผ่านมาก็ไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือใดๆ แม้ว่าแต่ละเดือนจะมีค่าใช้จ่ายรวมๆทั้งของเธอและของลูกนับแสนบาทก็ตาม
อนาคตก็ต้องมีค่าเรียนจริงๆ ที่ไม่ใช่ค่าเรียนเสริมอีก ถึงต้องคุยกับพี่เบนซ์ ว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องคุยกัน ตอนนี้ที่ไม่พูดหรือไม่ขอ เพราะคิดว่าเราไหว”
และเมื่อถามว่ากลัวจะเกิดดราม่าว่าทอดทิ้งเขาหรือไม่
แพทก็บอก “อย่าใช้คำว่าทิ้งเลย แพทเข้าใจนะ คนอยู่ข้างใน แต่คนข้างนอกจะโดนหนักกว่า คือถ้าวันนี้เราเดินออกมา คนก็จะบอกว่าตายแล้ว รอไม่ได้ ทิ้ง สงสารเบนซ์ แตก่อนที่จะไปคิดตรงนั้น ต้องคิดถึงคนข้างนอกด้วยว่าเขารับภาระอะไรอยู่ แล้วเขาจะใช้ชีวิตต่อยังไงกับสิ่งที่เขาแบกรับไว้
มันคงไม่ใช่การตัดสินใจแค่แว้บเดียวหรือคนเดียว แพทต้องคุยกับพี่เบนซ์ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่การคุยคือตอนนี้เขารับรู้แค่ว่าเราสบาย เราไม่เหนื่อย เขาไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่เรากำลังจะบอกเขาว่ามันไม่ใช่ ต่อให้คุณอยู่ข้างใน แต่คุณสามารถดูเราสองคนได้นะ ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะแข็งแรงแบบนี้ตลอดไป
เป็นการบอกให้เขาเข้าใจ”