ห้ามพลาด !! ผลกระทบจากสารพิษในเครื่องสำอางที่อาจจะเกิดขึ้นกับสุขภาพชองคุณ

เอาละค้า !! เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องความสวยความงามจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสาวๆ  แถมสมัยนี้การแต่งหน้าของสาวๆ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้พวกเธอนั้นดูดีขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ ทั้งนี้ยังจำเป็นสำหรับหน้าที่การงาน เพื่อให้ตัวเองดูดีต่อหน้าบุคคลอื่นอยู่เสมอ จึงทำให้ใบหน้าของเราต้องสัมผัสกับเครื่องสำอางต่างๆ อย่างมากมายอยู่ตลอดทั้งวัน แต่ทราบหรือไม่ว่าเครื่องสำอางที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำทุกวันนั้นมีสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังของเราอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เสี่ยงต่อการสะสมของสารพิษเกินปริมาณที่ปลอดภัยจนอาจจะนำมาซึ่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราได้ จะเป็นยังไงไปดูกันเลยยย 

 

ผลกระทบจากสารพิษในเครื่องสำอางที่อาจจะเกิดขึ้นกับสุขภาพ
ใครก็ตามที่ต้องใช้เวลาวันๆ ไปกับการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางนานาชนิดมานานกว่า 2 ปี แน่นอนว่าผิวหนังของเราย่อมจะซึมซับเอาสารพิษต่างๆ ในเครื่องสำอางเหล่านั้นสะสมเอาไว้และสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายของเราได้มากกว่า 60% กลายเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยความเหี่ยวย่น จนส่งผลให้ผิวหนังดูแก่ก่อนวัยอันควร เนื่องมาจากเซลล์ผิวได้รับออกซิเจนในปริมาณที่ไม่เพียงพอ แม้ว่าเราจะพยายามทำความสะอาดผิวหน้าเป็นอย่างดีทุกครั้งก่อนเข้านอนก็ตาม แต่ทว่าในระหว่างวันเราก็ยังจะได้รับสารพิษเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายอยู่ดี จนทำให้ผู้หญิงที่แต่งหน้าหนาและบ่อยครั้งมีความเสี่ยงที่ผิวหนังจะมีสภาพแก่ก่อนวัยอันควรได้ ซึ่งสารพิษที่เราควรระวังในผลิตภัณฑ์เครื่องสางต่างๆ มีดังต่อไปนี้

1. ทาล
ทาลเป็นสารเคมีที่มีส่วนกระตุ้นให้เกิดมะเร็งได้ง่าย แต่อย่างไรก็ตามสารนี้จะต้องได้รับในปริมาณมากๆ จึงจะส่งผลร้ายต่อร่างกายเรา โดยส่วนมากแล้วทาลจะถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบหลักในแป้งฝุ่น แป้งตลับ บลัชออนและอายแชร์โดวแบบฝุ่น ช่วยให้เนื้อสัมผัสของแป้งมีความลื่นและลดการจับตัวเป็นก้อน

2. สารตะกั่ว
สารตะกั่วเป็นสารพิษที่เรามักพบการปนเปื้อนได้บ่อยในเครื่องสำอางโดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับมาตรฐาน สารชนิดนี้เป็นสารต้องห้ามที่มักจะปนเปื้อนมาจากสารสกัดที่ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เมื่อสารตะกั่วถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ก็จะส่งผลกระทบให้เกิดอาการปวดท้องบิดอย่างรุนแรง ท้องผูก ถ่ายเป็นเลือด เม็ดเลือดแดงถูกทำลายและจำนวนเม็ดเลือดแดงลดลงจนไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนได้ ซึ่งหากได้รับในปริมาณมากก็จะยิ่งเข้าไปทำลายระบบประสาท จนทำการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายล้มเหลว หมดสติและเสียชีวิตตามมาได้ ดังนั้นแล้วข้อห้ามของปริมาณสารตะกั่วในเครื่องสำอางจะต้องมีไม่เกิน 20 ส่วนในล้านส่วนตามปริมาณของน้ำหนัก ซึ่งถ้าหากเกินกว่านั้นก็ถือว่าเครื่องสำอางชนิดนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับร่างกายได้

3. Petroleum Derivative
สารชนิดนี้เกิดจากการแยกตัวของน้ำมันปิโตรเลียม เมื่อได้ออกมาแล้วจะถูกนำเอาไปใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางประเภทรองพื้น ครีมบำรุงผิว โฟมล้างหน้า และเครื่องสำอางประเภทเนื้อครีมต่างๆ ด้วยคุณสมบัติของมันที่ช่วยให้ผิวของเราสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนผิวหนังได้ดีขึ้นโดยการเคลือบเป็นชั้นบางๆ ซึ่งสารชนิดนี้มีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่มากกว่ารูขุมขนของเรา บวกกับต้องผ่านกรมวิธีทางเคมีมาหลายขั้นตอน ก็อาจจะส่งผลให้ผิวหนังของเราเกิดอาการแพ้และระคายเคือง นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและเป็นสิวได้ง่ายขึ้นจนส่งผลให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว

4. พาราเบน
เป็นสารที่ได้รับความนิยมใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางที่ใช้บนผิวหนัง ครีมบำรุงใบหน้า ไปจนถึงโรลออนระงับกลิ่นกาย เนื่องจากสารชนิดนี้มีราคาถูก มันจึงถูกนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับเมธิลพาราเบนและเอธิลพาราเบน โดยคุณสมบัติของมันช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อถูกสัมผัสบนผิวหนังจะสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายของเราได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถกระจายตัวเข้าสู่กระแสเลือดและเข้าไปสะสมภายในร่างกายจนส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ส่งผลให้การทำงานของต่อมไร้ท่อเกิดความผิดปกติ และทำให้ฮอร์โมนไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมตามมา

5. สารปรอท
สารปรอทเป็นสารที่ทำให้ผิวหนังของเราง่ายต่อการเกิดอาการระคายเคือง เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากๆ จะส่งผลให้เกิดอาการปัสสาวะขัด ซึ่งเรามักจะพบสารชนิดนี้ได้ในเครื่องสำอางประเภทลดสิว ฝ้าและกระบนใบหน้า โดยมักพบได้ในเครื่องสำอางที่ไม่ได้รับมาตรฐาน โดยเราสามารถรับเอาสารปรอทเข้าสู่ร่างกายได้โดยผ่านการสูดดม การกลืนกินและแพร่เข้าสู่ลำไส้ หรือแม้กระทั่งการซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังเข้าไปสะสมในร่างกายจนทำให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ เสียสมดุลตามมา

เพราะฉะนั้น หากสาวๆ มีความจำเป็นที่จะต้องแต่งหน้าอยู่เป็นประจำทุกวันก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงด้วยการแต่งหน้าให้บางลง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน และที่สำคัญควรล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังของเราต้องเผชิญหน้ากับสารเคมีมากเกินไป จนนำมาซึ่งอันตรายและสภาพผิวหนังที่เสียหายอย่างไม่น่ามองตามมา