สูตรขนมต้ม ขนมไทยสมัยสุโขทัย สีสันสดใสน่าทาน

“ขนมต้ม”เป็นขนมที่มีหลักฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เข้ามาพร้องกับศาสนาพราหมณ์และลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า โดยเชื่อกันว่าพระพิฆเนศโปรดขนมนี้มาก ครั้งหนึ่งเสวยเข้าไปจนเต็มพุง เมื่อขี่หนูกลับวิมาน ระหว่างทางหนูมาเจองู ตกใจจึงหยุดทันที พระพิฆเนศตกจากหลังหนู พุงแตก พระพิฆเนศเสียดายขนมจึงกอบเข้าใส่พุงใหม่แล้วเอาซากงูที่ตีตายแล้วมาพันพุงไว้ แล้วจึงกลับไปวิมาน

ส่วนผสมแป้ง

1. แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม

2. น้ำเปล่า (สำหรับนวดแป้ง)

3. กลิ่นมะลิ

4. ใบเตย

ส่วนผสมไส้กระฉีก

1. น้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำตาลปี๊บ 200 กรัม

2. มะพร้าวทึนทึกขูด 2 ถ้วยตวง

3. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสมมะพร้าวสำหรับคลุก

1. มะพร้าวทึนทึกขูด 1 ถ้วยตวง

2. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำขนมต้ม

1. ทำไส้กระฉีกโดยการนำมะพร้าวทึนทึกขูด น้ำตาลมะพร้าว และเกลือป่น ใส่ในกระทะทอง ผัดไฟอ่อนจนกระทั่งน้ำตาลซึมเข้าไปในเนื้อมะพร้าว และส่วนผสมเหนียวดีพอที่จะปั้นได้ พักไว้ให้อุ่น ปั้นเป็นก้อนกลม พักไว้

2. ทำแป้งโดยการหยดกลิ่นมะลิลงในน้ำเปล่า ค่อยๆเทน้ำลงในแป้งข้าวเหนียวทีละน้อยสลับกับนวดแป้ง นวดต่อให้แป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเดียวกับไส้ ใช้นิ้วกดให้แป้งแผ่ออกเป็นแผ่น นำไส้ใส่ไว้ตรงกลาง แล้วห่อไส้ให้มิด คลึงแป้งเป็นก้อนกลมอีกครั้ง วางพักไว้บนจานที่โรยแป้งนวล ทำจนกระทั่งแป้งหมด

3. นำมะพร้าวทึนทึกมาเคล้ากับเกลือ ใส่ถาดเตรียมไว้

4. ตั้งน้ำให้เดือดเป็นฟองปุดๆ ไม่ต้องถึงขั้นเดือดพล่าน นำแป้งที่ปั้นไว้ลงต้มให้สุก พอแป้งลอยช้อนขึ้นวางลงในถาดมะพร้าวที่เตรียมไว้ คลุกให้มะพร้าวเกาะขนมให้ทั่ว