เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ทำเอาแฟนๆหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ หลังจากที่ผู้กำกับมากฝีมือ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง วูบกลางกองถ่ายละครกงกรรม เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ต้องหามเข้าโรงพยาบาล รักษาตัวในห้องไอซียู โดยเจ้าตัวมีอาการเส้นเลือดในสมองตีบ

ในช่วงนี้อาการเส้นเลือดในสมองตีบเลยกลายเป็นอีกหนึ่งโรคที่พูดถึงกันบ่อยมาก เพราะใครจะคาดคิดว่าอยู่ดีๆ คนจะวูบไปเลยทันทีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย และไม่ใช่เพียงแค่ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เท่านั้นที่ต้องมาปะสบกับโรคนี้ ยังมีคนดังอีกมากที่เคยเจอโรคนี้ วันนี้ทีวีพูล จะพาคุณไปดูกันบ้างว่ามีใครกันบ้าง

โจอี้ บาซู

อดีตนักร้องชื่อดัง “โจอี้ บาซู” หรือ “นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต” หลังมีข่าวเส้นเลือดในสมองตีบ อัมพาตซีกขวาขยับไม่ได้ ก็มีคนในวงการบันเทิง เข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจอย่างมากมาย ผลการวินิจฉัยของทีมแพทย์ ระบุว่า อาการเส้นเลือดในสมองตีบ ของผู้ป่วยทำให้เกิดเนื้อสมองบวม โอกาสที่ผู้ป่วยจะหายกลับคืนเป็นปกติเป็นไปได้ยาก แต่ก็ต้องทำกายภาพบำบัด และรักษากันต่อไป

น้าค่อม

ศิลปินตลกชื่อดัง “ค่อม ชวนชื่น” โหมงานหนักจนป่วยต้องเข้าพักและรักษาตัวที่โรงพยาบาล และแพทย์ตรวจพบเส้นเลือดในสมองตีบและเบาหวาน เหตุเป็นเพราะเครื่องดื่มชูกำลัง ลิโพ วันละ10 กว่าขวด บอกเริ่มกินตั้งแต่อายุ20ปี กินแล้วชื่นใจตนก็เลยชอบ เผยมีอาการเบลอๆ น้ำตาลในเลือด 350

ไพโรจน์ ใจสิงห์

นายไพโรจน์ ใจสิงห์ อายุ 73 ปี เปิดเผยถึงอาการป่วยในขณะนี้ว่า ตัวเองเป็นโรคความดันสูง เส้นเลือดสมองตีบ หัวใจโต และต่อมลูกหมากโต โดยวันแรกที่เป็นกำลังจะแต่งตัวไปตีกอล์ฟ อยู่ๆก็เกิดอาการลิ้นแข็งพูดไม่ได้ภรรยาก็เลยพาส่งโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยความดันขึ้นไป 200 กว่า ซึ่งนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 10 วัน จึงกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน และก็ไปตามที่หมอนัดอยู่เรื่อยๆ เคยอาการทรุดเกือบแย่ เนื่องจากความดันขึ้นสูงและกล้ามเนื้ออ่อนแรง จนทำให้ระบบขับถ่ายผิดปกติ แต่ก็เข้ารับการรักษาได้ทัน และประกอบกับน้องภรรยาเอาอาหารเสริมที่เป็นงานวิจัยที่มีส่วนผสมของงาดำที่ช่วยในเรื่องกล้ามเนื้อเอามาให้ทาน ทำให้ช่วงนี้สามารถลุกและเดินได้บ้างพอสมควร ซึ่งสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้ก็คือเรื่องยาที่ขาดไม่ได้ตามแพทย์สั่ง และในเรื่องของอาหารการกิน เพราะจะกินอาหารที่มีรสชาติจัดไม่ได้เลย

คุณหญิงแมงมุม

คุณหญิงแมงมุม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล ผู้จัดละครและธิดา ท่านมุ้ย ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เข้าโรงพยาบาลรับการรักษาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล ขณะที่มาถึงโรงพยาบาลนั้นมีอาการชาตั้งแต่บริเวณใบหน้าจนถึงแขนขาด้านซ้าย แขนซ้ายไม่สามารถควบคุมได้ สายตามองไม่เห็นในระยะ 1.5 เมตร แพทย์ใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมงในการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทจึงได้ส่งไปทำ MRI ผลของ MRI แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบ (stroke)  คุณหญิงแมงมุมเข้ารับการรักษาพยาบาลในหน่วย ICU (Stroke Unit) ของโรงพยาบาล เป็นเวลา 13 วัน การให้การรักษาเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีโรคประจำตัวคือโรค SLE (Lupus) หรือโรคพุ่มพวง ซึ่งในกรณีนี้ส่งผลให้ไตไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ”

เราควรจะมารู้จักโรคเส้นเลือดในสมองตีบให้ดี

อาการที่สังเกตได้ชัดหากมีภาวะของโรคเส้นเลือดในสมองตีบตัน ดังนี้

1. มีอาการแขนขาอ่อนแรง หรือชา อาจเป็นที่ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย

2. มีอาการชาหรืออ่อนแรงของใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง ปากเบี้ยว เป็นทันทีทันใด

3. ตาพร่ามัว ตาข้างใดข้างหนึ่งมืดหรือมองไม่เห็นไปชั่วครู่ หรือมองเห็นภาพซ้อน

4. มีอาการวิงเวียน บ้านหมุน เดินเซ ทรงตัวไม่ได้ บางรายอาจเดินไม่ได้

5. พูดลำบาก พูดไม่ออก ฟังไม่เข้าใจภาษา เป็นแบบทันทีทันใด

6. กลืนอาหารลำบาก สำลักบ่อย ๆ

7. รู้สึกสับสน

8. ปวดศีรษะอย่างรุนแรงในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มักเกิดขึ้นขณะมีอารมณ์เคร่งเครียดหรืออยู่ในอารมณ์รุนแรง ร่วมกับอาเจียนหรือหมดสติ

การปฎิบัติตัวให้ห่างไกลจากโรคเส้นเลือนในสมองตีบอย่างง่ายๆ มีดังนี้

1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์

  1. รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อย่าปล่อยให้อ้วน
  2. ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  3. จำกัดหรือหลีกเลี่ยงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  4. งดสูบบุหรี่
  5. ลดการบริโภคอาหารรสเค็มจัด เพื่อป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง
  6. บริโภคอาหารที่มีไขมันต่ำ อาหารที่มีเส้นใยสูง
  7. ตรวจสุขภาพร่างกายเพื่อหาความเสี่ยง เช่น ความดันโลหิต เบาหวาน โรคหัวใจ
  8. หากเป็นผู้ป่วยโรคเสี่ยง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต้องดูแลตัวเองให้ดี ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และต้องรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้หายจากโรค
  9. เรียนรู้ สัญญาณเตือนของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและแนวทางการป้องกัน
  10. หากมีอาการผิดปกติ เช่น แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดลำบาก เวียนศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะเซลล์สมองขาดเลือดเพียง 1 นาที จะมีเซลล์สมองตายประมาณ 1 ล้านเซลล์ ถ้าได้รับการรักษาช้า อาจทำให้เกิดความพิการมากขึ้น

โรคเส้นเลือดในสมองตีบ นั้นไม่ใช่โรคที่รุนแรงมากหากตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัดเช่นเค็มเป็นหลัก ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบหรือโรคอื่นๆ ก็ไม่สามารถเข้ามาในชีวิตได้