วันที่ 16 ก.ย.61 เกิดเหตุชาวบ้าน ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นำเนื้อวัวไปปรุงอาหารรับประทาน เมื่อผ่านไป 2 – 3 ชั่วโมง ทุกคนมีอาการผิดปกติ เช่น เซื่องซึม ขนพอง ตาแดงกล่ำ น้ำลายฟูมปาก และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีรายหนึ่งอาการหนักจนญาติๆ ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลพรหมคีรี เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา
จากการสอบถาม พบว่าเนื้อดังกล่าวเป็นวัวของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน อ.พรหมคีรี ที่ถูกสุนัขกัดตาย แต่เกิดเสียดายและเห็นแก่ได้ จึงชำแหละขายในราคาถูก ทั้งใน อ.เมือง และ อ.พรหมคีรี ส่งผลให้ผู้รับประทานเนื้อดังกล่าว บางคนติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ก่อนจะมีการประกาศให้ชาวบ้านทุกคนที่รับประทานเนื้อวัวรีบเดินทางไปฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโดยด่วน พร้อมนำเนื้อดังกล่าว ส่งพิสูจน์ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อไป
เบื้องต้น ที่โรงพยาบาลพรหมคีรี ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าให้ชาวบ้านที่รับประทานเนื้อวัวไปแล้วกว่า 200 ราย โรงพยาบาลมหาราช 50 ราย และโรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ 10 ราย ซึ่งแพทย์ได้ฉีดเข็มแรกให้กับทุกคน และกำหนดให้ทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามกำหนดอาทิตย์ละ 1-2 เข็ม จนครบตามจำนวนคนละ 5-6 เข็ม
ด้าน นายสิทธิชัย ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งซื้อเนื้อวัวดังกล่าว เล่าว่า ญาติๆ ในซอยเดียวกันเป็นคนนำเนื้อวัวมาขายในราคา กิโลกรัม ละ 150 บาท จากราคาปกติอยู่ที่กิโลกรัมละ 250 – 270 บาท โดยนำมาปรุงอาหารมื้อแรก 1 กิโลกรัม ทั้งแกงเผ็ด ลาบเนื้อ รับประทานกันทั้งบ้าน 4 คน จากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทุกคนมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแผ่นหลัง และมีน้ำลายออกมามากผิดปกติ ขนพอง ตาแดงกล่ำ เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านที่ซื้อเนื้อวัวตัวเดียวกันมาปรุงอาหาร พบว่าทุกคนมีอาการเดียวกัน ซึ่งหลังการฉีดวัคซีนพบว่าอาการได้เบาบางลงจนเกิดเป็นปกติแล้ว
