มากันที่ตัวแม่กันเลย “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” รับมาแล้วหลายบทบาท ตั้งแต่นางเอกแสนดีไปจนถึงนางร้าย บทร้ายๆ ของเธอที่คนจำได้แม่นคือบทอินทุอร เมียน้อยสุดร้ายจากละครเรื่อง เมียหลวงและบท เจ้านางอนัญทิพย์ จากเรื่อง เพลิงพระนาง ที่ร้ายจนคนดูอินไปตามๆ กัน และส่งผลให้เธอยังคงปังมาจนทุกวันนี้ เพราะบทบาทหลากหลาย ไม่น่าเบื่อนั่นเอง
“นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี” เล่นบทนางเอกแสนดีมาตลอด แต่เรื่อง เปรตวัดสุทัศน์เธอก็เล่นร้ายอยู่นะ แต่มาพลิกบทบาทเป็นนางเอกร้ายสุดๆ ในบท ลำยอง จากเรื่อง ทองเนื้อเก้า ซึ่งเป็นบทที่แจ้งเกิดให้เธอใหม่อีกครั้งเลยทีเดียว และบทบาทนี้ทำให้คนรู้ว่าเธอเป็นดาราคุณภาพที่สามารถรับได้หลายบทบาท
“จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” เราอาจจะติดภาพเธอรับบทเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่หลังจากเธอผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระ และรับเล่นละครเรื่อง สามีตีตรา ในบท สายน้ำผึ้ง ที่พยายามแย่งสามีเพื่อนตลอดเวลา ทำให้เห็นด้านร้ายๆ ที่เธอสามารถส่งผ่านอารมณ์ได้อย่างดี หลังจากนั้นคนก็เริ่มเห็นฝีมือการแสดงที่หลากหลาย และเห็นเธอรับบทที่แปลกใหม่มากขึ้น
“ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” เป็นนางเอกของอีกช่องมาโดยตลอด และเมื่อย้ายช่องปุ๊บก็ได้รับบทร้ายปั๊บ อย่างบทของ เรยา ใน ดอกส้มสีทอง ทีแรกเธอกลัวว่าจะมีกระแสในด้านลบ แต่ปรากฏว่ากลายเป็นว่าเธอดังเปรี้ยงจากเรื่องนี้และขึ้นเป็นนางเอกเบอร์ต้นของช่องในทันที หลังจากนั้นเรื่อง ทรายสีเพลิง ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอเป็นนางเอกที่ร้ายไม่แพ้กัน
“เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” อีกหนึ่งนางเอกเจ้าบทบาทที่ผ่านมาแล้วหลายรูปแบบ แต่บทที่ทำให้เธอปังสุดๆ น่าจะเป็นละครเรื่องล่าสุดอย่างเรื่อง เพลิงบุญ ในบท ใจเริง ที่อิจฉาริษยาเพื่อนตลอดเวลา และพยายามจะแย่งสามีของเพื่อนมาเป็นของตน ทำให้ชื่อของ “ใจเริง” ถูกเซิร์ชเป็นอันดับหนึ่งในปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว เพราะแซ่บเว่อร์
“มิว นิษฐา จิรยั่งยืน” เล่นบทเรียบร้อยมานาน พอเรื่อง รากนครา ที่เธอรับบทเป็น มิ่งหล้า เธอกลับแสดงความร้ายออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียว แม้ภายหลังจะกลับตัวเป็นคนดีก็ตาม และบทที่ท้าทายนี้ทำให้ฝีมือการแสดงของเธอพัฒนาไปมากเลยทีเดียว
