เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ช่วงนี้อาจจะเห็นเรื่องการเมืองเริ่มระอุขึ้นมาบ้าง เพราะเหลือเวลาอีกไม่นานเท่าไหร่แล้วกับกรเลือกตั้ง เมื่อถึงช่วงเวลาของการเลือกตั้งครั้งใด เหล่าบรรดาศิลปิน ดารา นักกีฬา ต่างพากันแห่มาลงสมัคร ส.ส.กันเพียบ ทำให้กระแสการเมืองดูคึกคักขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร เหล่าคนดังบางคนเถึงหันหลังให้วงการบันเทิงแล้วมุ่งสู่การเมือง อาจเพราะอำนาจของผลประโยชน์เบื้องหลังการเมือง จึงทำให้คนในวงการบันเทิงอย่าง ดารา สื่อมวลชน ผู้ประกาศข่าว และพิธีกร หันหลังให้แสงสี แล้วพร้อมใจกันกระโจนลงสู่สนามการเมือง วันนี้ทีวีพูลเลยจะพาย้อนไปดูว่ามีคนดังคนไหนบ้างที่ เคยเลือกเส้นทางนี้

แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี

อดีตพระเอกหนุ่ม “แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี” เชื่อว่าหลายคนยังคงจดจำพระเอกมากความสามารถคนนี้ได้อย่างแน่นอน แซม ยุรนันท์ ฝากผลงานเอาไว้มากมายในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนายแบบ พระเอกภาพยนตร์ พระเอกละคร นักร้อง หรือแม้กระทั่งพิธีกร ก่อนจะผันตัวเองไปเล่นการเมือง และหลังจากนั้น แซม ยุรนันท์ ก็หายหน้าไป ซึ่งเคยลงสมัคร ส.ส.เขตในกรุงเทพมหานครมาหลายครั้ง ในนามของพรรคเพื่อไทย

แอฟ ทักษอร

เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียกได้ว่าเพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง และสวยงามทั้งภายในและภายนอกจริงๆ สำหรับ แอฟ ทักษอร ต้องบอกเลยว่าสาวแอฟสวยงามมาก ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว แต่ก็ยังสวยสง่าดุจเจ้าหญิง ออร่าจับสุดๆ แอฟเคยได้รับการแต่งตั้งเป็น รองโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม (ฝ่ายการเมือง) ประสานงานในด้าน เด็กและเยาวชน มารยาทความเป็นไทย จากกระทรวงวัฒนธรรม

สมบัติ เมทะนี

จากความบังเอิญที่ได้เล่นเป็นพระเอกละครทีวีครั้งแรก เป็นจุดที่ทำให้ก้าวสู่พระเอกจอเงินแบบเต็มตัว กระทั่งพบว่าเป็นพระเอกที่เล่นหนังมากที่สุดในโลก ที่สุดผันชีวิตสู่สนามนักการเมือง

บรู๊ค ดนุพร

บรู๊ค ดนุพร เป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ตั้งแต่ปี 2541 – 2548 (เป็นเวลา 8 ปี) ละครเรื่องแรก ลูกตาลลอยแก้ว ปี พ.ศ. 2541 นายดนุพร เริ่มงานการเมืองด้วยการเข้าสังกัดพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นการทำงานการเมืองคนละขั้วกับพี่ชาย (นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์) แต่ก็ยังได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นตำแหน่งแรกในทางการเมือง

อี้ แทนคุณ

หลายๆ คนคงพอจะจำกันได้กับบทบาทลูกคุณหนูไฮโซ ตัวโกง หน้าตี๋ ดูโฉดๆ เลวๆ ในละครเรื่อง “ทอฝันกับมาวิน” เมื่อ 13 ปีก่อน ที่ทำให้เค้ามีชื่อเสียง หนุ่มที่ว่านั้น  คือหนุ่ม “อี้ เอกชัย บูรณผานิต”  ที่ตอนหลังมาเปลี่ยนชื่อ เป็น “แทนคุณ จิตต์อิสระ” นั่นเอง ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองเป็นโฆษกพรรคแรงงานไทย 11 มิถุนายน 2546