จากกรณีศึกเดือดเดือดซัดกันไปมาระหว่าง ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองดัง หลังจาก ทนายตั้ม ออกมาพูดประเด็นการรับเงินจาก “สารวัตรซัว” จำนวน 6 ล้านบาท โดย ชูวิทย์ ได้ออกยืนยันความบริสุทธิ์นำเงินไปบริจาคโรงพยาบาล 2 แห่ง ไม่ได้นำมาใช้แม้แต่บาทเดียว แต่ต่อมาโรงพยาบาลได้รีบนำเงินบริจาคดังกล่าวมาคืน

โดยชูวิทย์ได้นำเงินก้อนนี้ไปให้ตำรวจ เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป ก่อนที่จะมาแฉกลับ ทนายตั้ม โดยการโพสต์ภาพใบเสร็จรับเงิน 3 แสนบาท ในชื่อของบริษัทนายษิทรา ซึ่งระบุว่าเป็นค่าแถลงข่าวออกสื่อ และกล่าวหาว่านายษิทราเป็นตัวแทนเว็บพนันออนไลน์

ต่อมา ทนายตั้ม แถลงโต้ นายชูวิทย์ ปมเรียกเก็บค่าแถลงข่าวลูกความ 3 แสนบาท โดยยืนยันว่ามีการเรียกเก็บเงินจากการแถลงข่าวจริง เนื่องจากเป็นค่าป้องกันการถูกฟ้องในอนาคต นอกจากนี้เงินดังกล่าวที่ลูกความชนะจากการฟ้องคดี จะได้รับส่วนแบ่ง 15% แต่ไม่ได้บังคับลูกความ โดยที่ผ่านมาเรียกเก็บสูงสุดคือ 3 แสนบาท

จากประเด็นดังกล่าวทำให้ตอนนี้ชื่อของ ทนายตั้ม กำลังเป็นที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะมีชาวเน็ตต่างส่องโปร์ไฟล์ สไตล์การแต่งตัว รวมถึงเรื่องการทำธุรกิจ โดยข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2566 พบว่า ทนายตั้ม เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 4 แห่ง ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ 1 แห่ง

1. บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท
ตั้งอยู่ที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 24 ห้องเลขที่ 2409 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจ กิจกรรมทางกฎหมาย ปรากฎชื่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นกรรมการรายเดียว
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2565 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ถือหุ้น 45% เท่ากับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ที่ถือ 45% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ถือ 10%
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 1,807,000 บาท รายจ่ายรวม 1,374,661 บาท เสียภาษีเงินได้ 19,853 บาท กำไรสุทธิ 412,502 บาท

2. บริษัท มอนสเตอร์บายส์ จำกัด

ประกอบกิจการจำหน่ายบัตรที่พัก บัตรร้านอาหารและบริการอื่นๆ แจ้งเลิกกิจการ (นายษิทรา เป็นกรรมการ และร่วมถือหุ้น 25%)

3. บริษัท อเมทิส สกินแคร์ จำกัด

ประกอบกิจการค้าเครื่องสำอางอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องใช้เสริมความงาม ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง (นายษิทรา เป็นกรรมการ ร่วมกับนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด และ น.ส.ลลพร ใจดี)

4. บริษัท เอสที.อินเตอร์ 2016 จำกัด

ประกอบกิจการโรงแรม ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” เมื่อ 18 ส.ค. 2564

by TVPOOL ONLINE

ว๊าว! เปิดธุรกิจและรายได้ “ทนายตั้ม” พูดเลยธรรมดาที่ไหน!?