นักแสดงชายเจ้าบทบาท เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2489 ที่จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยวิชาการก่อสร้าง (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในปัจจุบันเริ่มอาชีพนักแสดงด้วยการเป็นนักแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่ออายุได้ 30 กว่าปีแล้ว โดยการรับบทเป็นพระเอก ต่อมาละครเวทีเรื่องนี้ได้มีโอกาสแพร่ภาพออกโทรทัศน์ทางช่อง 5 จึงมีผู้เห็นแววและชักชวนเข้าสู่การแสดงภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่แสดงคือ กิเลสคน ในปี พ.ศ. 2520 ต่อมาก็คือ สวัสดีคุณครู พ.ศ. 2521 และเทพธิดาบาร์ พ.ศ 2521 เป็นเรื่องที่สาม นั้นเอง เเละมีอีกหลายๆเรื่องตามมา

สุเชาว์ พงษ์วิไล ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 โดยเจ้าตัวได้เผยว่าทำงานในวงการบันเทิงมานานถึง 43 ปีซึ่งก่อนหน้านั้นเคยเป็นการไฟฟ้ามาก่อนทำให้รู้จักกับอดีตภรรยา และแต่งงานกันตอนที่ตนอายุประมาณ 32 ปี และก็มีลูกด้วยกัน แต่สาเหตุที่โดนภรรยาบอกเลิกก็คือ

“ติดหลายอย่าง ก็เลยไม่ได้กลับบ้าน คือตอนเข้าวงการทำงานการไฟฟ้าด้วย แล้วก็ทำงานการแสดงด้วย กับเพื่อนเด็กๆ ในวงการ เสร็จแล้วไปต่อกัน ช่วงนั้นจะกินเหล้าเยอะมาก”ซึ่งความรู้สึกตอนนั้น “มันเต็มที่แล้ว คิดว่ามันถึงเวลา” “แยกกันอยู่ดีกว่าจะได้ไม่ต้องทะเลาะให้เด็กมันเห็นตอนนั้นก็แบ่งลูกคนละคน เขาเอาคนเล็กไปเลี้ยงแล้วคนโตก็อยู่กับผม สุดท้ายเขาเป็นคุณแม่ที่เข้มงวดมากแล้วก็ดุ เขาไม่ค่อยมีเวลาที่จะไปรับไปส่งก็เลยให้ผมมาดูแล”และนอกเหนือจากเหตุผลที่ติดหลายอย่าง นั้นคือถูกมองว่าไม่แมน “ก็ประมาณนั้นครับ เพราะว่าเพื่อนๆ น้องๆ ที่ทำงานในวงการ ส่วนมากก็จะเป็นเพศทางเลือกเยอะแล้วผมกินกับพวกเขาอยู่ แล้วบางทีมันดึกมากกลับไม่ได้ ก็นอนที่นั่นก็เลยเข้าใจไขว้เขวกันไป” “แล้วมีช่วงหนึ่งผมไปเล่นหนัง เรื่องขบวนการคนใช้ ผมเล่นเป็นกะเทย

ซึ่งผมไม่คิดว่าผมจะเล่นได้ วันแรกที่เข้าเซตแต่งเต็มยศเลยเป็นผู้หญิง แล้วผมติดคาแร็กเตอร์นี่มานานมากจนแบบผมอยู่ตรงนี้เล่นเป็นกะเทยบ้าง ผู้ชายบ้าง ผมตกใจร้องว้ายมาตั้งหลายปี”ก่อนจะขอเคลียร์ว่า “มันเป็นแค่การแสดง” “ผมอยากจะบอกว่าโดยทางวิทยาศาสตร์โครโมโซมของเรา บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าด้านไหนชัดเจน บางคนเป็นตั้งนาน มีลูกตั้งหลายคนถึงลุกมาแปลงเพศก็มี….ส่วนสถานะตอนนี้ สุเชาว์ ก็ว่า ‘โสด’ อยู่เดียวมาตั้งแต่เลิกกับภรรยา “ผมไม่เหงานะมันมีอะไรให้ผมทำตั้งเยอะแยะ แล้วผมเป็นคนที่อยู่ไม่ติดที่อยู่แล้ว ถ้ามีใครมาอยู่ด้วยอีกคนมันก็จะไปไหนมาไหนไม่สะดวก กลายเป็นภาระ แล้วผมก็ไม่อยากเป็นภาระใครด้วย”

สุเชาว์ พงษ์วิไล หลังชอบใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ซื้อบ้านหลังใหญ่