จีบสำเร็จ! “ชิงชิง คริษฐา” ให้สถานะ “นัท อติรุจ” เป็นคนพิเศษ จีบสำเร็จ!-หลังจากที่นักแสดงสาวร่างเล็ก ชิงชิง-คริษฐา สังสะโอภาส กลายมาเป็นที่รู้จักในวงกว้างเพราะตกเป็นข่าวดราม่า เป็นมือที่ 3 ระหว่างพระเอกคนดังเวียร์ ศุกลวัฒน์ และ เบลล่า ราณี แคมเปน คราวโน้น

ทำให้นัท อติรุจ สิงหอำพล นักแสดงรุ่นพี่คนสนิท ออกมาเปิดเผยว่า จริงๆแล้ว ชิงชิง คือคนที่ตนตกหลุมรัก และพอเรื่องราวคลี่คลาย ก็เริ่มเดินหน้าจีบให้กำลังใจไปเรื่อยๆ โดยไม่สนสถานะ แค่คุยกันแล้วสบายใจกันพอ

ล่าสุด สาว ชิงชิง-คริษฐา เดินทางมา เพื่อโปรโมทภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตอย่าง ภาพยนตร์เรื่อง ฮักเถิดเทิง ผู้สื่อข่าวเลยอัปเดตสถานะหัวใจด้วยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์กับหนุ่ม นัท อติรุจ เป็นอย่างไรบ้าง ขยับสถานะจากพี่น้องเป็นแฟนแล้วหรือยัง

กลายเป็นสาวน้อยทำงานตลอดเลย แล้วแบบนี้มีเวลาให้กับหัวใจตัวเองบ้างมั้ยคะ? “ก็เรื่อยๆค่ะ”

ขอขยายความเรื่อยๆนิดนึง ? “ก็เหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรพิเศษ ก็กับคนเดิม จริงๆเราคุยกันมาเป็นพี่น้องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างจากเดิมเยอะ”

แล้วสถานะของเรากับพี่นัทมันเรียกว่ายังไง? “คือเค้าก็เป็นคนที่เราสบายใจ ที่เราจะเล่าให้เค้าฟังได้ทุกเรื่อง คือเหมือนเค้าก็เป็นเซฟโซนเรา เค้าก็แบบว่าเป็นพี่เป็นเพื่อนเวลาที่เราคุยก็สบายใจที่จะคุยกับเขา”

เราตั้งไว้ไหมว่าวันนึงเราจะต้องเรียกเขาว่าแฟนเมื่อไหร่? “ไม่ได้กำหนดเลย เราไม่ได้คิดที่จะแบบว่ามีสถานะขึ้น เอาจริงๆเราก็กลัวด้วยถ้าสมุติว่าเราขยับไปใช้คำว่าแฟน ถ้าวันนึงเลิกกันมันจะมองหน้ากันยากกว่า แต่การที่แบบเราเรื่อยๆของเราไปแบบเนี่ย ก็คือพิเศษอะค่ะ แต่ว่าก็ไม่อยากนิยามอะไรแบบนี้” ก็คือพิเศษอะค่ะ แต่ว่าก็ไม่อยากนิยาม

สำหรับคำว่าเรื่อยๆของเรามันนานแค่ไหนแล้ว? ถ้ารู้จักก็ประมาณสามปี คือเล่นละครนายฮ้อยทมิฬด้วยกัน”

แล้วเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนพิเศษเมื่อไหร่? “ไม่รู้เลยค่ะ (หัวเราะ) ก็เหมือนว่าคุยแล้วก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆ บางทีก็คือจะมีแก๊งค์ที่ไปทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ หลังจากที่ละครนานฮ้อยทมิฬจบ ก็มีไปเที่ยวแบบเป็นทริปบ้าง แล้วก็นัดกันไปกินข้าว แต่ก็คือนานๆที ก็คือมีกรุ๊ปที่ติดต่อกันอยู่แล้วค่ะ”

คือความสัมพันธ์ของเราอาจจะไม่ได้ใช้กับคำว่าแฟน แต่ก็ไม่ได้คุยกับคนอื่นใช่ไหม? “ไม่ได้คุยเผื่อค่ะ ก็คือเราคุยคนเดียว แต่ว่าก็ไม่ได้อยากจะนิยาม ก็กลัวด้วย ถ้าสำหรับหนูนะคะ เพราะว่าเรากลัวว่าถ้าเปลี่ยนสถานะไปมันจะไม่เหมือนเดิมหรือเปล่า เพราะว่าถ้าเกิดเปลี่ยนสถานะไปทมันอาจจะมีความเกรงใจที่มากกว่านั้น “

อย่างตัวพี่นัทเองเค้าได้ทำให้เรารู้สึกไม่เชื่อใจหรือว่าไม่มั่นใจอะไรหรือเปล่า?“ก็ไม่นะคะ”

แล้วส่วนตัวเค้าเองก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร? “ไม่ได้เลย ก็คือเคยคุยกันค่ะ หลังจากที่เจอมรสุม เจอข่าวครั้งนั้น. พอเขาพูดว่าชอบ เราก็แบบตกใจ ว่าเฮ้ยชอบหรอ แต่ตอนนั้นก็คือตกใจแล้วก็มีอยู่ช่วงหนึ่งไม่รู้จะคุยอะไรกันซักพักอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ก็กลับมาเหมือนเดิม “

ก็คือเราไม่รู้มาก่อนว่าเค้าชอบเราเพิ่งมารู้ตอนที่เค้าออกมาพูด? “ ใช่ เพราะว่าก่อนหน้านี้เราคุยกันเหมือนเป็นพี่เป็นน้องสนิทกัน เหมือน พี่ร่วมช่องคนอื่นอะไรแบบนี้ก็คือไปเล่นไปกินข้าวก็ปกติ เราใช้ชีวิตปกติอยู่แล้ว แต่พอเราเจออะไรหนักๆ แต่เค้าก็คอยซัพพอร์ตเราอยู่ตลอด อย่างบางทีมีเหตุการณ์แบบรถเฉี่ยวอะไรอย่างนี้พี่เขาก็มาดู”

ก็คือทุกปัญหาก็มีเค้าอยู่ข้างเสมอ?“ใช่ค่ะ”

แล้วหลังจากมรสุมชีวิตเราเป็นยังไงบ้าง? “ก็ใช้ชีวิตปกติไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “

ที่ผ่านมาก็ยังคงมีบางกลุ่มบางคอมเม้นต์ที่จับโยงเปรียบเทียบเรากับอีกฝ่าย? “ก็เห็นบ้างค่ะ แต่ก็พยายามคิดว่าคือเราก็ไม่ได้อยากจะให้มันเป็นแนวนั้นหรือว่าจะให้ไปเปรียบเทียบกันเราก็ใช้ชีวิตของเราไป พี่เขาก็มีชีวิตของพี่เค้า ไม่อยากให้มาโยงอะไรกัน เพราะต่างคนก็ต่างไม่ได้อะไรกันอยู่แล้ว “