วันที่ 25 กันยายน 2567 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มประชาชนเปราะบาง ทั้งผู้พิการและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0 ต่างพากันมารอถอนเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาบุรีรัมย์ ตั้งแต่เช้าก่อนที่ธนาคารจะเปิดทำการ หลายคนได้รับเงินโอนช่วยเหลือแล้ว และถอนเงินจำนวน 10,000 บาทเพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัว บ้างก็นำเงินไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว หรือซื้อข้าวสารและอาหารแห้งตุนไว้ใช้

นายบุญเสาร์ ขันติวงศ์ อายุ 70 ปี หนึ่งในผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเงิน 10,000 บาทจากโครงการช่วยเหลือของรัฐ เขาได้ถอนเงินทั้งก้อนเพื่อนำไปซื้อปุ๋ยใส่นาข้าว หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้ ก็อาจต้องกู้เงินเพิ่มเติม ทำให้มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น จึงขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน ยายทุ นิลนนท์ อายุ 78 ปี ผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้เดินทางมารอถอนเงินตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า แต่เมื่อปรับยอดเงินในสมุดบัญชีพบว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ยายทุเปิดเผยว่า รู้สึกผิดหวังและเสียใจมาก เพราะตั้งใจจะถอนเงินไปใช้จ่ายซื้อของกินของใช้ที่จำเป็น หลังจากที่รัฐประกาศว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีผู้พิการในวันนี้ เธอจึงมารอแต่เช้า พร้อมทั้งวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบและดำเนินการให้เงินเข้าบัญชีโดยเร็ว

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสงสัยและความกังวลให้กับผู้พิการและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลายรายที่ยังไม่ได้รับเงินเช่นกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

เบาหวานขึ้นตาอีกแล้วจ้า เมื่อเห็นบรรยากาศของ หนูแอฟ-นนทกุล อยู่ด้วยกัน ทุกอย่างหยุดความเคลื่อนไหวของจริง

แห่แบนยังเอาไม่อยู่! ยอดวิว “ภาวะสิ้นยินดี” พุ่งไม่หยุด หลังได้ “แน็ก ชาลี” มาเป็นพระเอก MV ล่าสุดยอดวิว 1 วัน พุ่งไป 1.2ล้าน

by TVPOOL ONLINE

ยายวัย 78 ปี รอเงิน 10,000 บาทจากรัฐตั้งแต่เช้า แต่เงินยังไม่เข้าบัญชี วอนขอความช่วยเหลือให้ตรวจสอบ