เละเป็นโจ๊ก มิว #meyou อ่วมดราม่าเพลงพัทยา สนั่นโซเชียล!!

MEYOU หรือ มิว ชิษณุชา ถูกแฉ ไม่ให้เครดิต คนช่วยทำเพลง พัทยา พร้อมถูกชาวเน็ตจับผิดเรื่องใช้รูป นางแบบชื่อดัง มาทำเป็น ปกเพลง โดยไม่ได้ขออนุญาต ด้านแฟนเก่า-แฟนใหม่ โพสต์ตีกันไม่ยั้ง กรณีนอกใจและคบซ้อน

กลายเป็นประเด็นดราม่ากันสนั่นโซเชียล สำหรับศิลปินหนุ่ม MEYOU หรือ มิว ชิษณุชา ที่เพิ่งปล่อยซิงเกิลล่าสุดอย่าง “พัทยา” ออกมา จนโด่งดัง และมียอดวิวสูงถึง 14 ล้านวิว แต่ก็เกิดเรื่องจนได้ เมื่อมีคนออกมา แฉ ถึงเรื่องผลงานเพลงของหนุ่ม มิว ว่าศิลปินหนุ่มไม่ให้เครดิตคนที่ช่วยทำเพลง แถมยังมีพฤติกรรมชอบมโนว่าเป็นคนแต่งเพลงเองทั้งหมด ทั้งที่มีคนช่วยแต่ง ซึ่งคนที่ออกมาแฉเป็นนักแต่งเพลงและเป็นคนสอนแร็ป ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก Tawichat Kansan หรือคนทั่วไปรู้จักกันในนามว่า หมี โดย หมี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า

“แม้แต่ เพลง พัทยา ชลบุรี ผมช่วย design กลองให้ แต่ไม่ได้ credit อะไร เขียนว่า prod. By me ก็ไม่รู้สินะ”

ซึ่ง หมี ยังได้โพสต์ข้อความรัวๆ เกี่ยวกับ มิว ในอีกหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ให้ผู้จัดการโทรมาเอาเงิน 80,000 บาท โดยบอกว่าเป็นเงินที่ตัวเองต้องได้รับจากการแต่งเพลงให้ Jayson Creer ทั้งที่ความจริง หมี เป็นคนแต่งและมีหลักฐานยืนยันแน่นอน หรือจะเป็นเรื่องที่ มิว ทำให้ หมี ต้องถูกออกจากการเป็นครูสอนแร็ปในค่ายใหญ่ ทั้งยังโพสต์ถึงเรื่องที่ มิว เคยนำเพลงของ illslick แร็ปเปอร์ชื่อดัง ไปเล่นคอนเสิร์ตโดยไม่ขออนุญาต จนทำให้เกิดดราม่าหนักในช่วงหนึ่ง และทำให้ illslick ได้แต่งเพลง Set Zero ออกมา หรือแม้กระทั่งเรื่องของศิลปินหนุ่ม The Toys ก็ยังโดนพาดพิงถึงว่า เวลาที่ The Toys ออกเพลงใหม่ มิว ก็อยากจะทำซ้ำ แบบอยากรู้ว่าใช้ดนตรีแบบไหน กลองแบบไหน ซาวด์แบบไหน แล้วจะได้ทำเพลงออกมาสู้ แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะ หมี ยังได้โพสต์ถึงแฟนเก่าของ มิว อย่างสาว จีน่า เดอซูซ่า ว่า ถ้าไม่มี จีน่า และร้านสัก ทั้งหมดทั้งมวลจะไม่มีทางเกิดขึ้น และ จีน่า ไม่เคยได้อะไรจากวงใส่หน้ากากเลย (วง SOYBAD) และ หมี เองก็ไม่เคยได้อะไรจากวงนี้เช่นกัน

งานนี้ หมี ยังได้บอกโพสต์บอกความรู้สึกไว้ด้วยว่า “ทุกคนคงรู้แหละว่าพวกผมเคยสนิทกันแค่ไหน แล้วมันเจ็บแค่ไหนที่เขาทำกับผมและเพื่อนผมแบบนี้”

ทางด้านสาว จีน่า เองก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กด้วยเช่นกัน โดยระบุข้อความว่า “คนอื่นจะได้รู้ไปเลยว่าคุณชอบหลอกใช้คนอื่น และทำเป็นพูดจาดีต่อหน้าเขา ผมอุตส่าห์ไม่พูด” ซึ่งก็ได้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดหนุ่ม มิว ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึงกรณีเพลง พัทยา ลงในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า

“ขออนุญาตชี้แจงนะครับ ตามที่ได้มีข้อสงสัยและสอบถามเข้ามามากเกี่ยวกับเรื่องการแต่งเพลง พัทยา ผมขอชี้แจงว่าเพลง พัทยา ผม “ยืนยัน” ว่าผมเป็น “ผู้แต่ง” และ “produced” ทั้งเนื้อร้องและทำนองร่วมกับพี่ @tonyhappyy และพี่ @janpat_ ซึ่งทั้ง 2 คนก็ได้ลงเครดิตในเพลงแล้วตามที่ทุกท่านเห็น ทั้งนี้โดยปกติที่ผ่านมาด้วยประสบการณ์ที่ยังไม่มากพอ ผมได้มีการขอคำปรึกษาพี่ๆ ในวงการหลายๆ ท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้กรุณาให้คำแนะนำเป็นอย่างดี แต่ก็แน่นอนว่าถ้าเป็นเพียงการ “ให้คำปรึกษาหรือชี้แนะ” เกี่ยวกับเพลงนั้นๆ นอกเหนือจากคำขอบคุณผมก็ไม่ได้ลงเครดิตในเพลงให้ แต่อย่างใดซึ่งอาจทำให้มีบางคนรู้สึกไม่สบายใจ อย่างไรผมต้องขอโทษด้วย และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ผมขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับผลงานในอนาคต / ผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นผู้แต่งหรือร่วมทำเพลงนั้นๆ จะต้องได้ credits เหมือนเดิมอย่างแน่นอน แต่ถ้าคนที่เกี่ยวข้องนั้นเพียงเป็นผู้ให้ “คำแนะนำ” หรือ “การชี้แนะ” เกี่ยวกับงานเพลงผมก็คงจะไม่ได้ลงเครดิตให้ เพราะคุณไม่ได้ทำ … คงมีเพียง แต่ “คำขอบคุณจากใจ” แบบพี่ๆ น้องๆ นะครับ สุดท้ายนี้ถ้าเรื่องดราม่าดังกล่าวทำให้ใครหลายๆ คนไม่สบายใจจากความไม่ชัดเจนของผมที่ไม่เคยแจ้งมาก่อนหน้านี้ ต้องขออภัยจากใจครับ และยังต้องขอขอบคุณอีกหลายๆ คน ที่เป็นห่วงและทักเข้ามานะครับ”

สรุป

ทั้งนี้ มิว ยังได้ออกมาไลฟ์สดชี้แจงอีกครั้งด้วย พร้อมทั้งโชว์ตัวโปรเจกต์งานเพลง พัทยา ที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นคนทำเองทั้งหมด โดยมี Tony และ Janpat ร่วมด้วย ให้ทุกคนได้ฟังเสียงกลองส่วนหนึ่ง เพื่อยืนยันว่าตนนั้นทำเองจริงๆ พร้อมย้ำว่าได้ใส่เครดิตคนที่เกี่ยวข้องในการทำเพลง พัทยา ไปหมดทุกคนแล้ว และเพลงต่อๆ ไป ก็จะใส่เครดิตให้คนที่เกี่ยวข้องในการทำเพลงแบบนี้อีกแน่นอน

แต่เรื่องเพลง พัทยา ก็ยังไม่จบแค่นั้น เพราะมีชาวเน็ตหลายคนได้เข้าไปสอบถามในโพสต์ชี้แจงของ มิว ถึงกรณีการนำรูปของนางแบบชื่อดังอย่าง Bella Hadid ไปใช้ประกอบภาพปกเพลง พัทยา และนำไปทำเสื้อขายในเชิงพาณิชย์อีกด้วย ซึ่งกรณีนี้ก็ได้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในทวิตเตอร์ จนทำให้คนที่วาดรูปดังกล่าวต้องออกมาชี้แจงว่า

“จากกรณีที่มีการทำผลงานโดยมีการนำรูปคุณ Bella Hadid มาใช้เป็น Reference ในการวาดภาพประกอบซิงเกิลเพลง พัทยา (Pattaya) ซึ่งใช้เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ทางเราต้องขอโทษคุณ Bella Hadid และทุกคนที่เกี่ยวข้องในการนำรูปมาวาดครั้งนี้ ตอนนี้ริสได้ดำเนินการแก้ไขลบรูปวาดคุณ Bella Hadid ออกจากผลงาน และคุยกับทางทีม มิว เรื่องการแก้ไขลบภาพประกอบซิงเกิลเพลงดังกล่าวออกจากสื่อบนออนไลน์ทั้งหมด และจะไม่มีภาพดังกล่าวมาใช้ในผลงานอีกต่อไป ริสรู้สึกเสียใจจริงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น และจะระมัดระวังในคำพูดและการทำผลงานครั้งต่อไป ขอบคุณทุกๆ คำติเตียน และทุกๆคอมเมนต์นะคะ”

ซึ่งหลังจากที่เจ้าของรูปวาดได้ออกมาชี้แจงไม่นาน ก็มีบรรดาชาวเน็ตเข้าไปถล่มคอมเมนต์กันเพียบ ว่าออกมาโพสต์แค่นี้ Bella Hadid เขาอ่านภาษาไทยไม่ออก อีกอย่างเจ้าของรูปได้เงินไปแล้ว ออกมาขอโทษแค่นี้ไม่ได้แปลว่าเรื่องจะจบ บางคนก็บอกว่า หากินด้วยการวาดรูป แต่ทำไมไม่ตระหนักถึงเรื่องลิขสิทธิ์ ส่วนบางคนก็บอกว่ายอดวิวเพลงเป็นสิบๆ ล้าน เอารูปคนอื่นไปหาเงินแบบนี้ ลบแค่นี้ถือว่าจบ มันจะง่ายไปไหม แต่ก็มีอีกหลายๆ คน ที่เข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจเจ้าของรูปเหมือนกัน

นอกจากกรณีเพลง พัทยา ที่ดูเหมือนว่ายังเคลียร์ได้ไม่จบสมบูรณ์เท่าไร ก็ยังมีกรณีของสาว จีน่า ออกมาอีก เพราะ จีน่า ได้มาทวีตข้อความเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับหนุ่ม มิว ที่ผ่านมา จนถึงวันที่เลิกลากันไป พร้อมกับพูดถึงเรื่องการคบซ้อนของหนุ่ม มิว กับไฮโซสาว และแฟนคนปัจจุบันของ มิว อย่างสาว จัสมิน อีกด้วย

“เริ่มตั้งแต่แรกเราเข้าค่ายมาหลังทุกคนเกือบปีเราจึงไม่รู้เรื่องก่อนเราเข้ามาก แต่คุณเขาก็ตามจีบเราเป็นปี ซึ่งตอนนั้นเขาก็ดูเหมือนมีคู่จิ้นซึ่งพอผ่านไปช่วงหลังๆ เขาบอกว่ามันแค่เกิดจากที่ค่ายจับคู่ให้จิ้นกัน และไม่ได้คุยกันแล้ว และก็ไม่ได้ชอบจริงจัง เวลาผ่านไปสักพักเราก็เริ่มคุยกับ . เราก็โดนกระแสซึ่งเราก็งงว่า . โกหกเราหรือเปล่าว่าไม่ได้คุยนานแล้ว จนทำให้นี่กับน้อง จด. เข้าใจผิดกัน แต่กลับไม่ออกมาแก้ข่าวหรือปกป้องใครเลย กลัวภาพตัวเองเสียหายสุด โอเคเราก็แบกมันไว้คนเดียวก็ได้ จะพูดเรื่องจริงก็ไม่ได้ เพราะมันจะเหมือนแฉกันเองนึกออกไหม ตัดภาพมาตอนคุยกัน ก็กลับไปเจ๊าะแจ๊ะ จด. และบอกว่าเราคิดมากไปเองเปล่า แต่ผู้ใหญ่ในค่ายทุกคนฟ้องฉันว่านางไป … กันตอนไปถ่ายเอ็มวี นี่ก็เลยโมโห แต่ก็เก็บไว้อีก รอบหลังๆ เริ่มโตขึ้นเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นแฟนคลับตัวเองบ้าง แฟนคลับกูบ้างจ่ะ หลายคนทักมาบอกนี่นะ และก็รู้มาตลอดว่ามีความอยากไปเยเย่มารูโกะคนอื่นตลอดที่คบกันมา แต่ก็เก็บไว้ เรื่องนิสัยไม่ดีขอไม่พูดถึงเดี๋ยวพูดไม่หมด เอาเป็นว่าคนรอบตัวฉันเคยเห็นกันหมด อยากได้หน้าคนเดียว อยากดูเก่งที่สุด เซลฟ์มาก บอกว่าเลือกที่จะมีชีวิตแบบสนุกสนาน เพราะพระเจ้าประทานพรมาให้ เอาเลยจ่ะเต็มที่ ระหว่างนั้น . แอบคุยกับ จม. และ สาวไฮโซ อยู่พร้อมกัน เลยตัดสินใจเลิกและไปอเมริกา”

ซึ่ง จีน่า ก็ยังทวีตข้อความที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของ มิว ออกมาอีกยาวเหยียด ทั้งเรื่องผลงานเพลง เรื่องที่ จีน่า ช่วยซัพพอร์ต มิว ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสอนร้องเพลง สอนแต่งตัว สอนแต่งรูป และก็อะไรอีกมากมายหลายอย่าง

จนทำให้สาว จัสมิน แฟนสาวคนปัจจุบันของ มิว ต้องออกมาเคลื่อนไหวด้วยการโพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมสตอรี่ฟาดกลับสาว จีน่า ว่า

“คุณไปอเมริกาก่อนที่จะเลิกไม่ใช่หรอคะ? อยู่ๆ ก็ไป ตอนคุณไปเรายังไม่รู้จักกับพี่ มิว เป็นการส่วนตัวเลยนะคะ ทำไมบอกว่าเพราะคุยกับนี่เลยเลือกจะไปอเมริกา? ดูวันได้เลยนะคะ ไทม์ไลน์ที่รู้จักกับพี่ มิว คือคุณเลิกกันแล้วหลายเดือนนะคะ จนคุณก็มีแฟนใหม่ไปแล้วนะคะ แล้วที่ทักไปอยากจะทราบว่าทำไมถึงยังคอยด่าเราให้แฟนคลับคุณฟังทั้งๆ ที่เราไม่เคยทำอะไรให้คุณ ยังไงอ่านแล้วก็มีวิจารญาณกันด้วยนะคะ ไม่อยากพูดอะไรเยอะ นี่จะเป็นครั้งแรกและสุดท้ายที่พูดถึงเรื่องนี้ คนที่รู้เรื่องจริงๆก็จะรู้ค่ะ”

และทาง มิว เองก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน

“สำหรับเรื่องของมินตลอดเวลาที่เราคบกันมาเรารักกันมากๆ มินเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมพาเข้าบ้าน และทุกคนที่บ้านก็รักและยอมรับมิน ผมกับมินจับมือกันมาตลอด ผ่านอะไรกันมาเยอะมาก we been thru ups & downs บ่อยครั้งที่มีคนพยายามที่จะทำลายความสัมพันธ์ของเรา ทั้งเอาเรื่องเก่าๆ มาพูด .. เช่นตอนนี้ก็เป็นเรื่องของเมื่อสามปีที่แล้ว เลยไม่เข้าใจว่าจะทำเพื่อ “ประโยชน์” อะไรกันแน่ แต่ผมมั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผมเสียดายว่ามันเฉพาะเจาะจงเกิดขึ้นในตอนที่เพลง “พัทยา” กำลังได้รับกระแสตอบรับอย่างนิยม เลยอาจจะทำให้แฟนเพลงบางส่วนเสียความรู้สึกอยู่บ้าง ผมต้องขอโทษอย่างมากนะครับ meyou.”

เรียกว่าเป็นมหากาพย์จริงๆ สำหรับกรณีดราม่าของหนุ่ม มิว ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ทราบได้ว่าจะจบลงแบบไหน เพราะมันมีหลายเรื่องเกิดขึ้นพร้อมกัน เอาเป็นว่าถ้ามีความคืบหน้าในเรื่องไหนออกมาก่อน แอดก็จะนำมาอัปเดตให้ติดตามกันต่อนะคะ