วันที่ 28 เม.ย. ดีเจมะตูม เตชินท์ ได้ออกมาแถลงตอบโต้ ปู ไปรยา กรณีที่ออกมาถอนตัวเกี่ยวกับธุรกิจอาหารเสริม ว่า…
ในเชิงการออกสื่อ ต้องเป็นพรีเซนเตอร์และเป็นบอส เพราะได้รับผลประโยชน์มากกว่าการเป็นพรีเซนเตอร์บอกได้สัญญาไว้ชัดเจน วันแรกที่ดีลงานกับ ปู ไปรยา
ตอนนั้นอยากจะรีแบรนด์ คิดว่าอยากร่วมงานกับคนระดับอินเตอร์เนชันแนล ตนเลยติดต่อ ปู ไปรยา ไปเอง ตนบอกต้นหอมว่าถ้าได้ปูเป็นบอสด้วยก็ดี และ ปู บอกเองก็ยินดีมาทำธุรกิจร่วมกันโดยจะเป็นบอส ตนเข้าใจมาตลอดว่าปูจะเป็นบอส เลยงงกับบทสัมภาษณ์
ปู ไปรยา เป็นคนที่ทำงานเก่ง ค่อนข้างเคร่งครัดกับสัญญาการทำงาน ส่วนเรื่องรายละเอียดหรือความไม่โปร่งใสในตัวบริษัท เราพร้อมที่จะชี้แจงและให้ตรวจสอบ เราไม่มีทางตุกติกหรือโกงอยู่แล้ว ส่วนข้อพิพาททางกฎหมายตนพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่ใช่ศาล บริษัทยังไม่ได้รับหมายศาล แต่เรื่องที่ปูยื่นมาให้ขอชี้แจงอาจเป็นไปได้ แต่ตนยังไม่เห็นเอกสาร
ไม่มีใครอยากพูดให้ตัวเองดูแย่ เขาเชื่อมั่นในหลักฐานของเขา ฝั่งบริษัทเราก็เช่นกัน เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นแล้ว ไม่มีใครมาตัดสินได้ ให้ศาลตัดสินเลยว่าใครถูกใครผิดกันแน่ ที่เราส่งโนติซไปมันคือฟางเส้นสุดท้าย คือ เข้าข่ายลักษณะว่าได้ผลประโยชน์เท่านี้แต่ทำไมทำงานเท่านี้ปู คงทำเต็มที่ในส่วนของเขา แต่ทัศนคติการทำงานอาจไม่ตรงกัน ตนไม่โทษว่าปูผิดสัญญาหรือไม่มาร่วมงานกับเรา การที่เขาเคยคิดอยากมาร่วมงานกับเราถือเป็นเกียรติแล้ว เพราะเราเป็นแบรนด์เล็ก ตนขอโทษที่ไปแขวะ เพราะฟังบทสัมภาษณ์ของปูแล้วตนเสียความรู้สึกมาก ทำให้เราโมโห เราไม่มีสติเลยแชร์ให้ตัวแทนเห็นว่าทำไมถึงทำแบบนี้
เรื่องอาหารเสริม มันไม่ใช่แค่แบรนด์เราที่โดนผลกระทบ มันโดนกันหมด ตนเลยคิดว่าทำไมไม่ประณีประนอมคุยกันหลังบ้าน จนกลายเป็นขี้ปากชาวโซเชียล วันนี้ตนโดนประชาชนตัดสินไปก่อนศาลแล้ว เรื่องของบริษัท วันนี้เรามีปัญหาใหญ่ระดับประเทศ ปล่อยให้ทีมฝ่ายกฎหมายเป็นคนจัดการ เรื่องข้อสังสัยเกี่ยวกับความไม่โปร่งใส ยินดีให้เขาตรวจสอบอยู่แล้ว
สำหรับตูม ตนอยากจบด้วยการที่เราไม่ควรออกมาสาดน้ำลายใส่กันในโลกโซเชียลอีกแล้ว ตนโดนด่าเป็นดีเจตลาดล่างยังไม่ซีเรียส แต่ภาพของปูเขาใหญ่มาก ไม่ควรลงมามีข่าวด้านลบแบบนี้อีกแล้ว ไม่ต้องแคร์มิตรภาพก็ได้ ตนก็ไมได้อยากสนิทกับเขา แต่เราหยุดสาดน้ำลายใส่กันจะดีที่สุดทุกคนที่เราร่วมงานได้ เราโปร่งใส เราจะไปโกงเขาทำไม ถ้าโกงเราก็โดนแหก ตั้งแต่มีเรื่องสึนามิอาหารเสริม ตนสั่งให้บริษัทหยุดโพสต์รูป ปู ไปรยา ยืนยันคำเดิมว่าไม่เคยคิดที่จะทำร้ายชีวิตใครอย่างแน่นอน ส่วนจะทำต่อหรือไม่นั้น สินค้าบางตัวยังไปต่อได้ คำว่าสงสารตัวแทนที่เขาพูด เขาอาจจะสงสารในเรื่องของกำไร แต่คนที่อุ้มตัวแทนจริงๆคือบริษัทไม่ใช่เขา เขาไม่ได้อยู่ในห้องดีลเลอร์ด้วยซ้ำ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบกับภาพลักษณ์บริษัทอยู่แล้ว ส่วนเรื่องคุณภาพนั้น คนใช้เป็นผู้ตัดสิน บางคนไม่เคยใช้ยังมาด่าด้วยซ้ำ ต้องยอมรับว่าแบรนด์เราดัง มีนางเอกมาเป็นพรีเซนเตอร์ การทำธุรกิจตนมีสติและโปร่งใสมาตลอด แต่อยากจะขอโทษเรื่องการใช้โซเชียลของตน เรารู้ว่าเรามาจากจุดไหน สำเหนียกตัวเองอยู่แล้ว ส่วนเรื่อง แพท นั้นเป็นพรีเซนเตอร์ ไม่ใช่บอส ปู ที่ชัดเจนแต่แรกว่าเป็นบอส
วันนี้โดนคอมเมนต์ด่าแรงมาก หนักที่สุดในชีวิต เรื่องนี้มีผลกับการเลือกคนมาร่วมงานกับเราในอนาคต ถ้าเรามองใครเป็นเพื่อนจริงๆ คงไม่มีการฟ้องร้องอยู่แล้ว ตนไม่ได้สนิทกับปูอยู่แล้ว เพราะปูอยู่สูงมาก ก่อนมาทำงานร่วมกันเคยเจอแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ตนกับปูไม่ได้คุยกันมาครึ่งปีแล้ว เขาต้องการให้ตนคุยกับทนายเท่านั้น เราก็เลยให้ทนายเราไปคุยบ้าง กลายเป็นว่าเป็นทนายกับทนายคุยกันเองมาตลอด
พอออกมาแบบนั้น เราไม่พอใจอยู่แล้ว ทำไมไม่เคลียร์กันหลังบ้าน แต่เคลียร์ตอนนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว เขาไลน์มาถามว่าเลิกบล็อกเขาหรือยัง ตนไม่เคยบล็อกเขาเลย แม้แต่ไอจีตนยังฟอลโลอยู่เลยทั้งที่เขาอันฟลอเราไปนานแล้ว พอเขาทักมา ตนเลยพิมพ์ไปว่า…
จะทักมาด่าเหรอ เขาบอกว่า ปู ขอโทษเรายังรู้สึกดีกับมะตูมนะ พอได้อ่านเรายิ่งเจ็บ ถ้ารู้สึกดีทำไมไม่เคลียร์กันก่อน ออกมาสาดโคลนใส่กันคนที่เจ็บคือเรา ลองมาคือคุณนั่นแหละ
เราไม่รู้ว่าคนอื่นมองเราถูกมั้ยแต่เราพยายามทำทุกอย่างให้ถูกต้องที่สุดเพราะต้องทำมาหากินในวงการนี้ไม่อยากเข้าคุกอยู่แล้ว มีคนท้าว่าแถลงข่าวพร้อมกันเลยมั้ย ทางเราพร้อมเสมอ วันนี้มันมองหน้ากันไม่ติดแล้ว แต่อยากให้หยุดด่ากันไปมา ตอนนี้เราได้รับบทเรียนแล้วจากการที่ไม่ได้ศึกษานิสัยใจคอกันมาก่อนเพราะฉะนั้นให้กระบวนการศาลเป็นฝ่ายตัดสิน ต่อไปนี้ในเรื่องของกฎหมายจะให้พี่ต้นหอมเป็นคนตอบแต่เพียงผู้เดียว