เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
“พีท ธนภณ ทองเจือ”ทุ่มเงินนับล้าน พา “โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ”ลุยแข่งขัน Rotax Max Challenge International Trophy 2019 ที่สนาม Le Mans ประเทศฝรั่งเศส เพื่อกรุยทางสู่การเป็นนักแข่งรถมืออาชีพในอนาคต ลูกชายแววดีกว่าตน เชื่อมั่นว่าอนาคตสร้างชื่อให้ประเทศไทยแน่นอน โดย “พีท”ได้เปิดใจว่า ตนเข้าใจว่าอาชีพนักแข่งรถในประเทศไทยยังไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนมากนัก ตนทุ่มเทกับอาชีพนี้มาเกือบ 30 ปี ตนต้องดิ้นรนหางบและสปอนเซอร์เองแต่ก็โชคดีที่ตนทำผลงานดี สปอนเซอร์ใหญ่จึงสนับสนุนมาตลอด
แต่การแข่งขันของเด็กกับผู้ใหญ่ต่างกัน ซึ่งสำหรับเด็กคือถือว่าเป็นการเริ่มต้น ทางสปอนเซอร์จึงอาจจะยังมองไม่ชัดว่าจะไปในทิศทางไหน ซึ่งสนามที่ผ่านมา ผมต้องใช้เงินส่วนตัวของครอบครัวเป็นล้านบวกกับสปอนเซอร์ใจดีหลายท่านไม่ว่าจะเป็น ปตท.,ร้านตำรับไทย,อัลติเมทฟิล์ม,การบินไทย ฯลฯ ที่เค้าเห็นถึงศักยภาพของโรเตอร์ที่พิสูจน์การแข่งขันมาตลอด2ปีเต็มในการต่อสู้และได้แชมป์ประเทศไทยมา3รุ่นจาก2รายการใหญ่ ในปี2018 และการมีวินัยในการฝึกฝนแบบนักกีฬาอาชีพ อย่าลืมนะว่าน้องโรเตอร์อายุแค่ 10ขวบครึ่ง
เค้าต้องทิ้งเวลาในการเล่นสนุกกับเพื่อนเพื่อมาทำการแข่งขันเกือบทุกสัปดาห์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ถ้าใจไม่รักทำไม่ได้ ผมมองว่าไม่ว่าจะเป็นกีฬา ชนิดไหนก็ได้ แค่ขอให้เค้ารักและทำจริง คนเป็นพ่อก็พร้อมสนับสนุน เค้าโชคดีที่มีโค้ชส่วนตัวเป็นผม ได้เปรียบในหลายๆอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนอยู่ในสนามคือ สมาธิ และ การวางแผนของเค้าเอง ผมอยากให้เมืองไทย สนับสนุนกีฬารถให้มากกว่านี้ ผมเชื่อเด็กไทยไปได้ในสนามแข่งระดับโลก แต่ปัจจัยของอาชีพนี้คือ งบประมาณที่ใช้ค่อนข้างเยอะ ผมจึงกลับมารับงานแสดงมากขึ้นส่วนหนึ่งเพื่อนำรายได้ของเราไปซัพพอร์ตลูกด้วย และเป็นการกลับมาเพื่อแฟนละครที่ยังรักและให้กำลังใจผมเสมอ ทุกครั้งที่เราไปแข่งรถเค้าจะมาหาและให้กำลังใจ แฟนคลับทุกคนคือกำลังใจสำหรับทุกอาชีพที่ทำไม่ว่าจะงานแสดง หรืองานแข่งรถ แม้ว่าสนามที่ฝรั่งเศสโรเตอร์จะทำคะแนนได้แค่อันดับที่ 22 จาก42ประเทศ รถที่เข้าร่วมแข่งครั้งนี้ 300กว่าคันจากทั่วโลก ผมภูมิใจในตัวเค้านะ ทั้งที่เจอปัญหาเครื่องไม่ค่อยดี เกมส์การแข่งขันคือ นักแข่งต้องรับเครื่องแข่งจากผู้จัดการแข่งขันเท่านั้น ซึ่งทุกคนต้องจับฉลากเครื่องขึ้นมา ซึ่งอาจจะแฟร์สำหรับการแข่งขัน แต่ต้องมีการวัดดวงกันว่าจะได้เครื่องที่สมบูรณ์แค่ไหนมา การแข่งรถระดับโลก เค้าจะดีไซน์รถเฉพาะผู้ขับ ซึ่งต้องเทส,ซ้อม,ปรับจูนเครื่องแข่งให้พร้อมและสมบูรณ์ที่สุดก่อนลงสนาม ครั้งนี้ผมถือว่าโชคไม่ได้ช่วยเค้า เครื่องที่เราได้มามีปัญหา ทางทีมพยายามปรับจูนและทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด แต่สมรรถนะของเครื่องเราเป็นรองคู่แข่งอยู่มาก ทางนักแข่งและทีมพยายามสู้อยู่3วัน จนถึงการแข่งวันสุดท้าย อาการเครื่องไม่ดีขึ้นเลย ในรอบวอร์มอัพ ซึ่งทางทีมพยายามยื่นเรื่องขอเปลี่ยนเครื่องตั้งแต่วันแรก แต่ไม่ถูกอนุมัติมาตลอด หลังจากวอร์มอัพ speedของรถช้าลงอีก ทางทีมจึงส่งเครื่องกลับไปตรวจอีกครั้ง ในที่สุดผู้จัดการแข่งขัน ก้อพบปัญหาและอนุมัติให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ในนาทีสุดท้าย ซึ่งก้อต้องลุ้นกันต่อว่าเครื่องใหม่จะดีกว่าเดิมหรือจะแย่กว่าเดิม ที่สำคัญเราไม่มีเวลาเหลือพอสำหรับการปรับจูนเครื่องยนตร์ ใส่เครื่องใหม่เสร็จก็ถึงเวลาทำการแข่งขันพอดี น้องโรเตอร์ก็ลงไปลุยเลย ออกสตาร์ทจากท้ายแถวคันที่32 ซึ่งโรเตอร์ก็พยายามสู้นะ ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนขึ้นมาจบอันดับที่22 แซงขึ้นมาได้10คัน เค้าทำมาได้ขนาดนี้สำหรับเด็ก ผมว่าเค้าเก่ง เป็นเด็กที่ไม่เคยโกรธ ไม่เคยโวยวาย แม้ว่ารถจะวิ่งไม่ดีเค้าจะยิ้มและลงมือทำทุกอย่างแบบมีสติ นั่นเป็นสิ่งที่ผมว่าเค้ามาถูกทางล่ะ ที่เหลือคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ตอนนี้หน้าที่พ่อคือ เคลียร์ทุกอย่างเพื่อให้เค้าเดินต่อไปครับ”พีทกล่าว