เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กลายเป็นประเด็นดราม่าจนได้ เมื่อนางเอกสาว มาร์กี้ ราศรี ได้โพสต์รูปพร้อมหน้าครอบครัว ทั้งสามี ป๊อก ภัสสรกรณ์ และลูกแฝด น้องมีก้า-น้องมีญ่า ที่ดูแล้วน่ารักสดใสมากๆ

แต่กระนั้นก็มีแอคเคาท์หลุมได้เข้ามาป่วนคอมเมนต์ในเชิงลบ จนทำให้แฟนๆ รวมถึงชาวเน็ทที่เห็นต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมโต้ตอบไปด้วยว่า…

ก่อนหน้านี้ ล่าสุด ป๊อก ภัสสรกรณ์ อวดน้ำหนัก มีก้า-มีญ่า ให้โชคพี่เลี้ยงถูกรางวัลติด 8 งวด ก่อนหน้านี้ ป๊อก ภัสสรกรณ์ และ มาร์กี้ ราศรี เคยเล่าให้ฟังว่า ลูกฝาแฝด น้องมีก้า และ น้องมีญ่า นั้น มักจะให้โชคพี่เลี้ยง ให้รางวัลถูกมา 8 งวดซ้อนจากการชั่งน้ำหนักตัวเวลาไปหาหมอฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล และล่าสุด คุณพ่อลูกแฝดก็ไม่รอช้า รีบมาแบ่งปันตัวเลขให้กับคนชอบเสี่ยงดวงกัน

โดยคลิปนี้ ป๊อกกี้ on the run EP.54 ในช่วงต้นคลิปนั้น พ่อป๊อกแม่กี้ จะพาน้องแฝดไปหาคุณหมอเพื่อฉีดวัคซีนนั่นเอง ซึ่งงานนี้หนุ่มป๊อกก็พร้อมที่จะบอกใบ้ตัวเลขจากการชั่งน้ำหนักของลูกทั้ง 2 คน หลังจากที่มีแฟนๆ เรียกร้องกันมามากว่าถ้าหากน้องๆ ต้องไปหาหมอให้พ่อป๊อกแม่กี้ชี้เป้าเลขเด็ดด้วย

ซึ่งผลการวัดรอบศีรษะของเสี่ยมีก้านั้นอยู่ที่ 46 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักตัวนั้นอยู่ที่ 9.575 กิโลกรัม และทางฝั่งของสาวน้อยมีญ่านั้น รอบศีรษะอยู่ที่ 45 เซนติเมตร และน้ำหนักตัวอยู่ที่ 8.4 กิโลกรัม พ่อป๊อกจัดให้แฟนๆ ตามคำขอขนาดนี้ ใครที่ชอบเสี่ยงโชคก็ไปหาลอตเตอรี่เอาไว้กันนะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าพ่อป๊อกแม่กี้ไม่เตือน

“ป๊อก-มาร์กี้” เผยคำพูดแรกของน้อง “มีญ่า” พูดชัดมาก!  เลี้ยงลูกแบบธรรมชาติ พยายามเลี้ยงด้วยตนเอง พูดคุยกับลูกให้มากที่สุด สำหรับคุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่อย่าง “ป๊อก ภัสสรกรณ์ – มาร์กี้ ราศรี” ที่ลูกแฝด “มีก้า-มีญ่า” กำลังอยู่ในวัยหัดเรียนรู้น่ารัก ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งรับงานพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์เด็ก ประเดิมครั้งแรก

ล่าสุดคุณพ่อ “ป๊อก” ได้เผยคลิปการเลี้ยงลูก กับสาว “มาร์กี้” ในระหว่างกำลังพูดคุยกับน้อง “มีญ่า” ให้ลูกเรียนรู้หัดพูด ซึ่งลูกสาวก็พยายามฟังสิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่พูดอย่างตั้งใจ โดยป๊อกได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมระบุว่า “หนูพูดดำแรกแล้วค่ะ และคำแรกของหนูก็คือ… #คนนี้มีญ่าค่ะ”

ทั้งคุณพ่อป๊อกและคุณแม่มาร์กี้ ยังเคยเผยวิธีการเลี้ยงลูกว่า เลี้ยงลูกแบบธรรมชาติ ไม่หวงคนเข้าหา เพราะเตรียมวิธีรับมือไว้บ้างแล้ว ส่วนเรื่องค่าตัวน้องๆ ในการทำงานเป็นพรีเซนเตอร์ ก็จะเอาไว้เป็นทุนการศึกษา สำหรับการรับงานของลูกๆ ก็ต้องดูความเหมาะสม เพราะอยากให้เขาทำงานโดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าโดนบังคับ ไม่ใช่บังคับให้ต้องยกมือซ้าย ยกมือขวา เอาตามที่เขาสะดวก