เหล่าพี่น้อง ลูกหลาน ในวงการเพลงจะจัดงานรำลึกให้ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ แต่เพราะปีนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้งดการจัดงานรำลึกครบ 28 ปีของการจากไปของ ราชินีลูกทุ่ง ที่ลาลับจากแฟนเพลงไปอย่างไม่มีวันกลับ ณ วัดทับกระดาน จังหวัดสุพรรณบุรี
จากนั้นล่าสุดกลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อ ปุ้ม ไกรสร ยืนยันที่จะฟ้องร้อง 2 ผู้จัด หนึ่ง จักรวาล และ ท็อป ศราวุธ ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมส่งหนังสือเตือนผ่านต้นสังกัด “เวิร์คพ้อยท์” เนื่องจากจัดงานโดยไม่แจ้งให้ทราบ
โดย ปุ้ม ไกรสร แสงอนันต์ ผู้จัดการมรดกของพุ่มพวง ว่าทุกอย่างเคลียร์จบแล้วใช่มั้ยซึ่ง ไกรสร กลับตอบมาว่า ขณะนี้ได้ให้ทนายร่างเอกสารเพื่อฟ้องร้อง 2 ผู้จัดงาน ซึ่งก็คือ หนึ่ง จักรวาล และ ท็อป ศราวุธแล้ว ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมทั้งจะส่งหนังสือไปที่เวิร์คพ้อยท์ต้นสังกัดของหนึ่ง จักรวาล ด้วยว่า ประพฤติตนไม่ถูกต้อง และไร้มารยาทในการทำงาน
จากนั้น ไกรสร ระบุว่าที่ผู้จัดงานละเมิด มี 3 เรื่องใหญ่ คือ1.ใช้ชื่อเสียงพุ่มพวง 2.เสียงร้อง และ 3.รูปภาพทั้งนี้ ศิลปินที่มาร่วมงานทุกคน เขาจะไม่เอาความแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นบุคลที่รักและศรัทธาในผลงานของ พุ่มพวง ดวงจันทร์
“นักร้องทุกคนไม่เกี่ยวเลย ผมเคารพทุกคน ผมดีใจด้วยซ้ำ ที่มีคนรักพุ่มพวง แล้วมาร้องเพลงของเขา แต่ผมจะฟ้องตัวตั้งตัวตีเท่านั้น ที่ทำผิดจรรยาบรรณ ไม่มีจิตสำนึก และทำไม่ถูกกติกา ใครทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
ซึ่งตอนนี้เขายอมรับว่า เรื่องความรู้สึก มาก่อนเรื่องกฎหมาย ในฐานะที่เป็นสามี และผู้จัดการมรดก ขณะเดียวกัน พุ่มพวง ก็มีทายาทเพียงคนเดียว คือน้องเพชร ที่ยังทำงานอยู่ในวงการเดียวกันด้วย แต่ทำไมไม่บอกกล่าวให้รับรู้สักนิด ทั้งที่ทำได้ง่ายมาก แต่ก็ละเลยที่จะทำกัน”
“ถ้าผมเอาประวัติของคุณหนึ่ง หรือภรรยาคุณหนึ่งไปเขียนมั่งล่ะ หรือเอาไปทำหนัง ทำละคร แล้วผมจะไม่บอกกล่าวมั่งได้มั้ย จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากเลย ท็อปเองก็รู้จักผมและน้องเพชรดี ก่อนจัดงานยังมาสัมภาษณ์ผมอยู่เลย แล้วทำไมไม่บอกกันบ้าง”
อย่างไรก็ตาม ไกรสร ยังกล่าวชื่นชมบรรยากาศการจัดงานคอนเสิร์ต ว่าทำได้ดี เป็นงานที่ทำให้คนได้เข้ามาร่วมรำลึกถึงราชินีลูกทุ่ง และเป็นที่พูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง ซึ่งเพชร ลูกชาย รวมทั้งศิลปินคนอื่นๆ จะได้มีโอกาสทำงานสานต่อเพลงของพุ่มพวง ไปอีกอย่างน้อย 10-20 ปี
พอถามต่อว่าหากมีการติดต่อมาเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกัน ไกรสร กล่าวว่า“ก็ไม่ได้บอกว่ามันสายเกินไปหรอกนะ อะไรๆ มันก็ผิดกันได้ แต่ต้องมาขอโทษ และทำยังไงให้ประชาชนรับรู้ ให้สื่อมาทำข่าวให้ชัดเจน ผมจะถามว่า ทำไม เพราะอะไร จริงๆ มันผ่านไปแล้ว จบไปแล้วล่ะ แต่อยากจะรู้เหตุผล ว่าทำไมไม่บอกผม ไม่ต้องทำหนังสือหรอก แค่โทรมาบอกหน่อย บอกคำเดียว ผมก็ให้อยู่แล้ว แค่นั้นเอง”
ทั้งนี้ ไกรสร ทิ้งท้ายว่า “หลังจากนี้ผมจะไม่ให้สื่อสัมภาษณ์แล้วนะ จะโอนให้น้องเพชรเป็นคนดำเนินเรื่องทั้งหมด ภายภาคหน้าจะอ้างชื่อไม่ได้แล้ว จะทำพิพิธภัณฑ์หรืออะไรก็ตาม ลิขสิทธิ์ทุกอย่างโอนให้เพชรเป็นคนตัดสินใจ ดูกันตามกฏหมายเลย”
by TVPOOL ONLINE