กรณีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ปี ที่สูญหายจากบ้านพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานที่อาจจะเชื่อโยงคดี สืบสวนสอบสวนหาข้อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประเด็นที่คนไทยหลายคนยังค้างคาใจจากนั้นล่าสุดในรายการถามตรงๆกับจอมขวัญ ได้พูดคุยกัย นายอนามัย และ นางสาวิตรี พ่อและแม่ของ น้องชมพู่ โดยแม่น้องชมพู่เปิดเผยครั้งแรกว่า
ตนเริ่มสงสัยลุงพลตั้งแต่งานศพน้อง ในตอนแรกแค่คิดว่าทำไมลุงกับป้าไม่มางานศพน้องชมพู่ ยิ่งช่วงหลังยิ่งไม่มางานเลย แต่ก็ไม่ได้บอกใคร รวมทั้งไม่ได้บอกสามีด้วย เพราะกลัวว่าสามีจะอารมณ์ร้อนเพราะเขาเป็นคนรักลูกมาก เวลาปกติครอบครัวจะไม่ได้คุยกันเรื่องคดี หากตนสงสัยใครจะเก็บไว้คนเดียว ไม่บอกกับใคร กลัวว่าญาติจะเอาไปพูดกับคนนอกแล้วทำให้คนที่ถูกสงสัยได้รับความเสียหายสำหรับสาเหตุที่ออกมาเปิดเผยว่า สงสัย ลงพล เพราะกลัวว่าวันหนึ่งตำรวจจะพักสืบคดี หากตำรวจกลับไปแล้ว แต่ความสงสัยในตัวลุงพลยังอยู่ เราจะอยู่กันอย่างไร สงสัยลุงพล โดยประเด็นหลักๆ ที่สงสัยคือ
1. ลุงพลบอกสื่อว่า สดิ้งไปหาป้าที่บ้าน แล้วลุงพลพูดเหมือนรู้แล้วว่า น้องชมพู่ หายไปแล้ว ทั้งที่สดิ้งยังไม่ได้บอกใคร ยกเว้นเพื่อนเพียงคนเดียว แต่ลุงพลกลับมาพูดว่าไม่เจอสดิ้ง ไม่เจอใครแม่น้องชมพู่ กล่าวอีกว่า ตนเองแน่ใจว่า น้องสะดิ้ง ให้ข้อมูลกับทุกคนตรงกันทุกครั้ง ส่วนเจ้าอาวาสก็มั่นใจว่าท่านจำไม่ผิดว่าลุงพลบอกว่า น้องชมพู่หาย ก่อนที่ทุกคนจะรู้ข่าว แต่สงสัยว่าเหตุใดลุงพลพูดไม่ตรงกัน2. อยากรู้ว่า “ลุงพล” รู้ว่าน้องชมพู่หายตัวไปก่อนหรือหลังไปรับพระ และช่วงเวลาที่ลุงพลไปรับพระนานกว่าปกติ คือ ลุงพลมาถึงบ้านเวลา 09.30 น. ใช้เวลาอาบน้ำ 2 ขันแล้วรีบไปรับพระ ซึ่งเวลาที่ไปรับพระคือ 10.10 น. ซึ่งลุงพลบอกว่า สาเหตุที่ใช้เวลานานเพราะมัวแต่จอดรถแล้วคุยกับคนโน้นคนนี้เลยไปช้า ซึ่งคนเหล่านั้นบอกว่า เจอลุงพลหลังรับพระไปแล้วสาเหตุที่ไม่ให้รายละเอียดกับสามีเพราะสามีไม่ได้เรียนหนังสือ กลัวว่าจะไปพูดกับนักข่าวคลาดเคลื่อน และพี่น้องคนอื่นๆ ก็สงสัยลุงพลเหมือนกัน เลยสะกิดให้ตนออกมาพูดเพื่อให้ ลุงพล เคลียร์ตัวเอง และคิดว่าช่วงเวลาที่ลุงพลไปรับพระนานกว่าปกตินั้นสำคัญ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะปกติจะใช้เวลามากสุดแค่ 7 นาที แต่ลุงพลใช้เวลาเกือบ 30 นาที