จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้ หลังจากนั้นเมื่อลุงพลทราบเรื่องที่แม่น้องชมพู่สงสัยก็เกิดความเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่า แม่น้องชมพู่จะคิดแบบนี้กับตน จึงประกาศตัดญาติ เรื่องราวเริ่มบานปลายเพราะต่างฝ่ายๆต่างแฉกันไปมา และเรื่องราวดังกล่าวมีชาวโซเชี่ยลจำนวนมาก เกรงว่าลุงพลจะโดนหมายจับ และเชื่อว่าลุงพลไม่ได้ทำแน่นอน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุว่า ชมพู่ มันซน เล่นจนพ่อพันธ์แม่พันธ์ หนูนาตาย เราซื้อมาคู่ละ1หมื่น พี่อนามัยโมโหมาก เลยทุบตีไปหลายครั้ง ชมพู่ ตายค่ะ พี่อนามัยเล่าให้ฟัง นู๋ต้องช่วยผัวนู๋ค่ะ เพื่อทำลายหลักฐาน ไม่ให้ผัวนู๋ติดคุก
คำสารภาพ ของนาย อนามัยวงศ์ศรีชาชมพู่ มันซน มันทำพ่อพันธ์ แมพันธ์ หนูนาตาย ซื้อมาคู่ละ1หมื่น ผมโมโหมาก เลยทุบตีไปหลายครั้ง เด็กตายครับ ผมตกใจมากทำอะไรไม่ถูก เลยอุ้มชมพูไปบนเขาเพื่อทำลายหลักฐาน
ต่อมาเจ้าของเฟซบุ๊กตัวจริงจะออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า ช่วยแชร์หน่อยค่ะ โดนก๊อปรูปไปใช้ตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ แล้วไปโพสต์และแสดงความคิดเห็นในกลุ่มต่างๆ เกี่ยวกับข่าวน้องชมพู่ ดิฉันไม่รู้ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบุคคลดังกล่าวนะคะ ตอนนี้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้วนะคะ
ล่าสุดทางด้าน นายอนามัย และ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อ-แม่น้องชมพู่ ถึงประเด็นครอบครัวถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตจากชาวเน็ตโดยเฉพาะเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนร้ายเสียเอง และข่าวลือเรื่องที่พลั้งมือตีลูกเพราะทำหนูนาคู่ละหมื่นตายก่อนหน้านี้ โดยเรื่องดังกล่าวทำเอาทั้งคู่ถึงกับยกมือไหวและหลั่งน้ำตา บอกครอบครัว และ พ่อ-แม่ สูญเสียมากแล้วยังมาเจอกล่าวหาแบบนี้อีก ตอนนี้เครียดมากไม่กล้าไปแม้แต่ตลาด ส่วนเพื่อนบ้านคนอื่นๆก็ไม่มาหามาเยี่ยมเยียนเหมือนแต่ก่อน ไปไหนก็เจอมองด้วยสายตาคลางแคลงใจขอร้องอย่าทำร้ายกันเลยด้านนางสาวิตรี ผู้เป็นแม่ ยังเผยเรื่องคลิปวีดีโอวันเจอศพน้องชมพู่บนเขาซึ่งลุงพลเปรยออกมาว่า น้องคงหิวไม่มีอาหารกิน และคลิปดังกล่าวถูกแชร์ในโซเชียล ว่าตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะตนซึ่งเป็นแม่คิดอยู่เสมอว่าน้องโดนข่มขืนรึเปล่าเหตุไม่ได้ใส่เสื้อไม่เคยมีความคิดเรื่องกลัวน้องหิวตายอยู่ในสมองเลยทั้งนี้ ถามว่าจะมีเคลียร์ใจกับลุงพลมั้ยเพราะตอนนี้กลายเป็นว่าญาติต้องมาผิดใจกันแม่ชมพู่บอกว่า ต้องมีเคลียร์ใจกันแน่นอนแต่ก็ขอรอให้ทุกคนใจเย็นกันขึ้นมากว่านี้ก่อน