เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณี น้องชมพู่ เด็กวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขาภูเหล็กไฟ บริเวณหมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร และเจ้าหน้าที่-ญาติ พบศพ น้องชมพู่ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดชาวเน็ตจำนวนมากแชร์ภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่สงสัยใน คดีน้องชมพู่ ระบุว่า “มีใครสงสัยเหมือนเราบ้างว่ารูที่ก้นน้องมันเหมือนมาจากอุปกรณ์ตัวนี้” โดยเป็นอุปกรณ์ที่คาดว่าใช้จับหนูที่เลี้ยงขาย

ขณะที่ชาวโซเชียลฯ คอมเมนต์สอบถามจำนวนมากอุปกรณ์เอาไว้ทำอะไร และเชื่อมโยงกับ คดีน้องชมพู่ อย่างไรบ้าง นอกจากนี้บางคนมองว่าเป็นไปได้หรือไม่ เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ศพของน้องชมพู่เป็นรูโบ๋

แต่จากผลการชันสูตรศพ ของ นพ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องชมพู่คนแรก เปิดเผยผลชันสูตรศพอย่างละเอียด กับที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯของรัฐสภา

โดยระบุว่า ได้ทำการชันสูตรศพเมื่อเวลาบ่าย 14.00 น. ของวันที่ 15 พ.ค. 63 ยืนยันสภาพศพภายนอกมีเพียงร่องรอยขีดข่วนที่อาจเกิดจากกิ่งไม้ ซึ่งรอยขูดขีดจะกระจายเป็นกลุ่ม ๆ พบมากที่สุดบริเวณแผ่นหลัง เหนือข้อเท้าด้านซ้าย ซึ่งเป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นขณะยังมีชีวิต ส่วนอวัยวะภายใน มีหลายส่วนเริ่มเน่าจนไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้

ทั้งนี้ ยืนยันว่าสมองและปอดไม่พบความผิดปกติที่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย มีเพียงการเน่า กระโหลกศีรษะไม่พบการแตกร้าว คอไม่หัก ไม่มีรอยฟกช้ำ กระเพาะอาหารไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่ มีเพียงของเหลว 10 มิลลิลิตร อวัยวะเพศไม่พบร่องรอยที่เกิดจากการถูกล่วงละเมิด ซึ่งหากไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย มีความเป็นไปได้กรณีเด็กพลัดหลงป่าจนขาดอาหาร ขาดน้ำจนเสียชีวิต

TV Pool Online