เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ด.ญ.วัย 3 ขวบ ที่หายจากบ้าน ก่อนถูกพบเสียชีวิตในสภาพเปลือย บนภูเหล็กไฟ  โดยล่าสุดได้มีการเข้าตรวจสอบ “เสื้อสีส้ม” ที่ถูกพบอยู่ในลักษณะซุกอยู่ใต้ขอนไม้ ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน จากการสอบถาม นายแถน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ยอมรับว่า ตนเองได้ซื้อรถไถแล้วได้ของแถมเป็นเสื้อส้มจากร้านดังกล่าวจริง แต่ตนได้ซื้อรถไถมาตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2557 หรือ 6 ปีมาแล้ว ส่วนเสื้อส้มที่พบนั้น คล้ายกับเสื้อของตัวเองที่เคยใส่ แล้วนำไปทิ้งไว้ในกระท่อมในสวนยาง แต่จำไม่ได้ว่านำเสื้อไปทิ้งช่วงเวลาใด ซึ่งตนก็สงสัยว่าเหตุใดจึงมาพบเสื้อในช่วงเวลานี้ เหมือนกับมีการสร้างเรื่อง สร้างสถานการณ์ปั้นหลักฐานเท็จหรือไม่ ซึ่งตนพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ประกอบกับช่วงวันที่น้องชมพู่หาย ตนกับภรรยาไปตัดหญ้าในสวน พอกลับมาก็มาช่วยหาน้องชมพู่ด้วย

ด้าน นายหลบ ซึ่งซื้อรถไถจากร้านเดียวกันกับนายแถน เปิดเผยว่า ได้ซื้อรถไถเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2556 ได้เสื้อที่แถมมา 3 ตัว แต่เป็นเสื้อแขนสั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับเสื้อส้มที่พบ ส่วน พ่อแบม เปิดเผยว่า ตนเองซื้อรถไถมาตั้งแต่ปี 2553 ที่ศูนย์สกลนคร ของแถมจะมีเสื้อแขนยาวและแขนสั้น มีโลโก้บอก แต่เป็นคนละแบบที่มีการตรวจพบ เพราะเสื้อที่ได้เป็นรุ่นที่เก่ากว่า เชื่อว่ามีคนเอาไปซ่อน ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเหตุว่า เสื้อที่พบดังกล่าวเป็นของลุงพลนั้น ยืนยันว่าลุงพลไม่มีเสื้อแบบนี้แน่นอน จะมีใส่เฉพาะคนที่ซื้อรถไถเท่านั้น และลุงพลก็ไม่มีรถไถ

ขณะที่ น้าแต ซึ่งเป็นน้าของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ดีใจที่ตำรวจเจอหลักฐานใหม่ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าเสื้อส้มที่พบนั้นไม่ได้ไหลมาตามน้ำของห้วยบุ่ง เพราะน้ำในห้วยบุ่งไม่ไหลมานานแล้ว พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่า จะมีใครเอาเสื้อไปไว้ตรงนั้น เพราะปกติแล้วชาวบ้านทั่วไปจะไม่ทิ้งเสื้อไว้แบบนี้ เนื่องจากเสื้อทำงานตัวไหนใส่ไม่ได้ หรือไม่ใส่แล้ว ก็จะเอาไปทำผ้าขี้ริ้ว หรือไม่ก็เผาทำลาย ตนเชื่อว่าการพบหลักฐานชิ้นนี้อาจจะเป็นหลักฐานสำคัญที่สาวไปหาคนร้ายตัวจริง

น้าแต กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยเห็นเสื้อส้มตัวนี้ที่ไหน หากเป็นเสื้อส้มที่ตนใส่ โดยเฉพาะเสื้อส้มที่ถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก เสื้อสีส้มตัวนั้นไม่เหมือนกับเสื้อที่พบ ทั้งลาย ทั้งคอเสื้อก็ไม่เหมือนกัน เพราะคอเสื้อของตนเป็นคอปกด้านในสีเทา ซึ่งเสื้อตัวนี้เป็นเสื้อที่ตนใช้ต่อมาจากตาชาญ ผู้เป็นพ่อ และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่สวน  ขณะที่ พ่อของน้องชมพู่ ยืนยันว่า ตนเองก็มีเสื้อสีส้มคล้ายกับเสื้อที่เจอ แต่ของตนเป็นเสื้อที่ได้มาจากศูนย์ดงหลวง ยืนยันว่าเป็นคนละตัวกับที่เจอซุกใต้ขอนไม้