เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้ หลังจากนั้นเมื่อลุงพลทราบเรื่องที่แม่น้องชมพู่สงสัยก็เกิดความเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่า แม่น้องชมพู่จะคิดแบบนี้กับตน จึงประกาศตัดญาติ เรื่องราวเริ่มบานปลายเพราะต่างฝ่ายๆต่างแฉกันไปมา และเรื่องราวดังกล่าวมีชาวโซเชี่ยลจำนวนมาก เกรงว่าลุงพลจะโดนหมายจับ และเชื่อว่าลุงพลไม่ได้ทำแน่นอน

ต่อมามีชาวบ้านมาพบผ้าสีส้ม ลักษณะคล้ายเสื้อสีส้มแถบขาว บริเวณใต้กอไผ่ใกล้กับสวนยางชาวบ้านกกกอก โดยอยู่ในลักษณะซุกอยู่ใต้ขอนไม้ใกล้กับกอไผ่ นอกจากนี้ยังพบเศษผ้าคล้ายเสื้อสีขาวตกอยู่ใกล้กันทั้งนี้ ทางด้าน นางสาวิตรี และ นายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อแม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่า เสื้อดังกล่าวมีลักษณะคล้ายเสื้อที่แจกกับรถไถ แต่ไม่แน่ใจว่าของใคร และมีลักษณะเก่าแล้วจน ไม่น่าจะมีใครนำมาซุกซ่อนไว้ แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ซึ่งบริเวณนี้ใกล้จุดร่องน้ำ หากฤดูฝนน้ำจะไหลผ่าน แต่ช่วงที่น้องหายคือน้ำแห้ง ไม่รู้ว่าเสื้อนี้มาจากไหน ถ้าหากมีคนมาซุกไว้ ไม่น่าจะเป็นไปได้ และถือว่านี่คือหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

ล่าสุด นายชาญ หลาบโพธิ์ ตาของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนอยากให้ลูก ๆและทุกคนในครอบครัวไปสาบานที่วัดภูผาแอก เพราะอยากให้แสดงความบริสุทธิ์ไม่ให้ใครสงสัย เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่าย ก็ต่างสงสัยซึ่งกันและกัน กลายเป็นเรื่องที่ค้างคาใจกัน จากเดิมที่คนในครอบครัวเคยรักกันกลับต้องมาสงสัยกัน ตนในฐานะที่เป็นพ่อก็มีความมั่นใจว่าทั้งสองฝ่าย และลูกหลานทุก ๆ คนนั้น ไม่ได้เป็นคนฆ่าน้องชมพู่อย่างแน่นอน ตนจึงมีอยากให้ลูก ๆ ทุกคนในครอบครัวไปสาบานพร้อมกันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และตนยืนยันว่าการสาบานครั้งนี้ไม่ใช่การจับผิดใคร

โดยตนอยากให้ลูกหลานที่ไปสาบานกล่าวว่า ข้าพเจ้า ขอสาบานว่าถ้าฆ่าน้องชมพู่ หรือรู้เห็นเป็นใจกับคนร้าย ขอให้มีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิต ภายใน 3 วัน 7 วัน ซึ่งการสาบานเพื่อที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ต้องมากล่าวหากันเองว่าอีกฝ่ายเป็นคนฆ่าน้องชมพู่ เนื่องจากจะทำให้เป็นเรื่องที่ยืดยาว เพราะตนรู้ใจของลูกทุกคนว่าไม่ใช่คนผิดอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากเป็นกาวใจเชื่อมความสัมพันธ์ให้แก่ทั้งสองฝ่าย เพราะบ้านของตนเป็นศูนย์กลางที่ทุกฝ่ายจะเข้ามาหา ตนจึงอยากให้มาพูดมาคุยกัน

 

 

เรื่องสาบานเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ก็คงทำให้ปรองดองได้ เพราะใจอาตมาก็ไม่อยากให้สาบานเท่าไหร่ แต่อยากให้อโหสิกรรมกันมากกว่า เพราะตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่อยากให้สาบาน แต่สอนให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกันจะได้จบและสบายใจทั้งสองฝ่าย เพราะถ้าสาบานจะเป็นการผูกเวรผูกกรรมในชาติต่อ ๆ ไป และอาจจะไม่จบเสียที

 

 

นายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า ตนพร้อมเสมอหากจะมีการสาบาน และอยากให้ทุกสื่อเป็นพยานในการกินน้ำสาบาน แต่ตนไม่ทราบว่าครอบครัวของน้องชมพู่ และญาติคนอื่น ๆ พร้อมหรือยัง ต้องรอป้าแต๋นเป็นคนไปสอบถาม ตนไม่ติดขัด มีความพร้อมตลอดเวลาที่จะไปสาบาน หากมีการดื่มน้ำสาบาน ตนสามารถดื่มได้ แต่กังวลบ้างว่าอาจจะมีการทำของใส่ตามความเชื่อ ส่วนน้ำก็ต้องให้เห็นว่าเอามาจากไหน ส่วนตัวอยากไปที่วัดพระแก้ว แต่หากคนอื่น ๆ ไม่พร้อม ตนก็พร้อมที่จะไปที่ไหนก็ได้

 

ทั้งนี้ตนจะขอเป็นคนนำพูดประโยคสาบาน ตนเชื่อว่าคำพูดขึ้นอยู่กับความศรัทธาของผู้พูดว่า มีความศรัทธาขนาดไหน ตนอยากให้พูดประมาณว่า ถ้าใครมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการเสียชีวิตของน้อง ขอให้มีอันวิบัติ ให้ชิบหาย ให้ครอบครัวชิบหาย ตายโหงไปกับชมพู่ โดยขอให้คนทำผิดเจอเคราะห์ในเร็ววัน นางสมพร หลาบโพธิ์ ป้าของชมพู่ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการไปสาบาน ตนไม่เคยปฏิเสธสักครั้งเดียว แต่ยังไม่ครบทีมสักที ตนก็พร้อมตลอด รอให้ครบตามที่ต้องการอยู่

 

ทั้งนี้ การดื่มน้ำสาบานก็มองว่าดี จะให้พระปลุกเสกให้ ตนก็แอบคิดว่าคำปลุกเสกจะกระทบอะไรหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องคำปลุกเสก คาถาอาคมต่าง ๆ ตนกังวลตรงนี้มากกว่า ซึ่งตนดื่มได้ แต่ขอนำพระกริ่งไปแช่ล้างมนตร์ดำก่อน ส่วนตัวไม่ได้ติดขัดเรื่องสถานที่ไปสาบาย ลุงพลเองอยากไปวัดพระแก้ว ส่วนตัวอยากไปวันหลวงพ่อโสธร เพราะตนนับถือ แต่หากไม่สะดวกจะไปไกล ก็แล้วแต่หากใจมีอยู่เพียงเท่านี้ ตนก็แล้วแต่พ่อ